เปิดเวทีรักษามะเร็งแบบองค์รวม หนุน “สมาธิบำบัด” ร่วมยารักษา ช่วยก้อนมะเร็งเล็กลง ย้ำมะเร็งเป็นที่กาย แต่อย่าให้เป็นที่ใจ
นพ.สรรพงศ์ ฤทธิรักษา รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวในงานเสวนาวิชาการเรื่อง ความหลากหลายการจัดการมะเร็ง ตอนจุดเปลี่ยน ที่ต้องทบทวน ในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15 ว่า สถานการณ์โรคมะเร็งในประเทศไทยเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทย โดยล่าสุด พบผู้ป่วยใหม่กว่า 1 แสนคนต่อปี ดังนั้น การจัดเสวนาในครั้งนี้จึงเป็นเวทีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ จากผู้ป่วยและแพทย์ผู้รักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย วิทยากร ที่ร่วมเสวนา ในครั้งนี้ ประกอบด้วย แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน นางสาววิไลลักษณ์ ตันติตระกูล พยาบาลวิชาชีพ วัดคำประมง และ นพ.วัฒนะ พันธุ์ม่วง ผอ.รพ.การแพทย์แผนไทย และการแพทย์ผสมผสาน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งเสถียรธรรมสถาน กล่าวว่า การเผชิญหน้ามะเร็ง ต้องเริ่มการทำความเข้าใจ มองมะเร็งด้วยความอ่อนโยน อย่าให้มะเร็งมาทำลายความสุขในชีวิต มองหาเหตุและปัจจัยของโรค มะเร็งเป็นที่กาย แต่ต้องไม่เป็นมะเร็งที่ใจ การทำงานผู้ป่วยยังคงทำงานได้ตามปกติ ตอนแรกของการรักษาเริ่มจากการรับยาร่วมกับการภาวนา ตอนหลังเหลือแต่การภาวนาอย่างเดียว และขณะนี้ขนาดก้อนมะเร็งค่อยๆ ลดลง นอกจากนี้ ยังให้กำลังใจกับคนรอบข้างด้วย สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จักสังเกตร่างกายตัวเอง ดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เพราะไม่มีใครรู้จักตัวเราดีที่สุด นอกจากตัวเราเอง
น.ส.วิไลลักษณ์ กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากผู้ป่วยมะเร็งวัดคำประมง เน้นการรักษานำเรื่องศาสนามาเยียวยาจิตใจ ควบคู่การปรับสภาพแวดล้อม ใช้ธรรมชาติบำบัดให้เกิดความสงบสุข ความสุข ช่วยให้จิตใจของผู้ป่วยและญาติได้ผ่อนคลาย เจ้าหน้าที่เองก็ไม่เครียดจากการทำงาน พร้อมนำหลักศาสนา มาดูแลผู้ป่วย 4 ข้อ คือ 1. สุทธิ ความบริสุทธิ์ ไม่หวังประโยชน์ใดๆ จากผู้ป่วยและญาติ 2. ใช้ปัญญา ในการรักษาอย่างใคร่ครวญดูสภาวะร่างกายของคนไข้ และอย่าใช้คำพูดทำร้ายคนไข้ 3. เมตตา มองผู้ป่วยและญาติด้วยความเมตตา ต้องเข้าใจการยอมรับความตายแต่เป็นเรื่องยาก 4. ขันติ ความอดทน รับแรงปะทะจากผู้ป่วยและญาติ เพราะผู้ป่วยและญาติ มีบาดแผลทางใจอยู่แล้ว เจ้าหน้าที่มีหน้าที่แค่ช่วยเหลือ ทั้งนี้ ในแต่ละปีวัดคำประมงใช้งบประมาณดูแลผู้ป่วยประมาณกว่า 100 ล้านบาท
นพ.วัฒนะ พันธุ์ม่วง ผอ.รพ.การแพทย์แผนไทยฯ กล่าวว่า โรงพยาบาลแพทย์แผนไทยฯ มีการตรวจโรคคล้ายแผนปัจจุบัน แต่ลงรหัสโรคแบบแผนไทย ใช้ยาไทย ในการรักษา เช่น ท้องอืดท้องเฟ้อ ใช้อบเชย ส่วนมะเร็งในคัมภีร์แพทย์แผนไทย เกิดจากธาตุดินที่แกร่งขึ้น ทำให้ธาตุลมติดขัด ธาตุไฟอ่อน เกิดความคลั่งค้าง ท้องปวด ขาบวม ต้องทำให้ธาตุดินอ่อน ใช้ยาไทย เติมน้ำให้ร่างกายสมดุล มะเร็ง เน้นการดูแลผู้ป่วยประคับประคอง ดูแลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ในการรักษาอาหารมีส่วนสำคัญ เน้น การไม่ดื่มเหล้า และสูบบุหรี่ ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ ทานปลามีเกล็ด ทานผัก งดของหมักดอง เพราะถือเป็นของแสลง ทั้งนี้ ยังจัดให้มีนักโภชนาการมาให้คำแนะนำ ในส่วนตำรับยาไทย ที่ใช้รักษามะเร็งเป็นที่ยอมรับ ได้แก่ ยาเบญอำมฤตย์ เป็นกลุ่มยาระบาย ขับลม ทำให้คนไข้สบายตัว ท้องบวมลดลง