xs
xsm
sm
md
lg

“ไขมันทรานส์” ตัวร้าย ทำคนไทยป่วย “โรคหัวใจ” พุ่ง ตายปีละ 20,000 ราย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมควบคุมโรค ชี้ คนไทยป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้น เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 20,000 ราย สาเหตุหนึ่งมาจาก “ไขมันทรานส์” ทำไขมันดีลดลง ไขมันเลวเพิ่มขึ้น ก่อโรคอื้อ เชื่อออกประกาศขุมไขมันทรานส์ช่วยลดโรคร้าย

วันนี้ (20 ก.ค.) นพ.อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคไม่ติดต่อเรื้อรังของประเทศไทยมีแนวโน้มพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตจำนวนมากเฉลี่ยปีละประมาณ 20,000 ราย มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 30,000 ราย ส่วนโรคความดันโลหิตสูงช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2560) อัตราป่วยเพิ่มขึ้นจาก 12,342 ต่อประชากรแสนคน เป็น 14,926 ต่อแสนประชากร นอกจากนี้ โรคเบาหวาน มีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.9 หรือประมาณ 5 ล้านคน จากผลการสำรวจสุขภาพคนไทยครั้งที่ 5 ปี 2557 
ผลการศึกษาทางระบาดวิทยาจำนวนมากที่แสดงให้เห็นว่า ไขมันทรานส์ในอาหาร ทำให้ระดับ LDL (low density lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดเลวในเลือดเพิ่มขึ้น และลดระดับ HDL (high density lipoprotein) ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด

นพ.อัษฎางค์ กล่าวว่า การศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาบ่งชี้ว่า การไม่รับประทานอาหารที่มีไขมันทรานส์ สามารถป้องกันการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันประมาณ 10,000-20,000 ราย/ปี และป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ 3,000-7,000 ราย/ปี ทั้งนี้ อาหารหลายชนิดที่มีโอกาสพบไขมันทรานส์เป็นส่วนประกอบ เช่น มันฝรั่ง โดนัท เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียม วิปปิ้งครีม เนยขาว มาร์การีน และ คุกกี้ เป็นต้น ผู้บริโภคจึงควรอ่านฉลากโภชนาการให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อหรือรับประทาน โดยสังเกตที่ส่วนประกอบและตารางโภชนาการ (Nutrition Facts) ช่องไขมันรวม (Total fat) หากมีการใช้ไขมันทรานส์ จะชี้แจงไว้บริเวณนี้ นอกจากนี้ ยังพบไขมันทรานส์ในน้ำมันทอดซ้ำ ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาระหว่างน้ำมันกับไฮโดรเจนที่อยู่ในอาหารและน้ำ การลดโอกาสการเกิดไขมันทรานส์ในน้ำมัน คือ ต้องเลือกใช้น้ำมันให้ถูกกับประเภทของอาหาร เช่น ผัด หรือทานสด ควรเลือกน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันถั่วเหลือง อาหารประเภททอด ควรเลือกใช้น้ำมันปาล์มหรือน้ำมันมะพร้าว เพราะสามารถทนความร้อนได้สูง รวมถึงไม่ควรใช้น้ำมันทอดซ้ำไปมาหลายรอบ

นพ.อัษฎางค์ กล่าวว่า องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติและองค์การอนามัยโลกแนะนำประชาชนไม่ควรบริโภคไขมันทรานส์เกินร้อยละ 1 ของพลังงานทั้งหมดที่ได้รับใน 1 วัน (ประมาณ 2.2 กรัม) การหลีกเลี่ยงการได้รับไขมันทรานส์ที่สามารถทำได้ คือ 1.เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้ให้มากขึ้น 2.ควรลด/เลี่ยงการกินอาหารประเภทเบเกอรี่ต่างๆ โดยเฉพาะ พัฟ และเพรสตี้ 3.ควรลด/เลี่ยงอาหารทอด อาหารผัดที่ใช้นํ้ามันในปริมาณมาก และ 4.อ่านฉลากโภชนาการให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อหรือรับประทาน ทั้งนี้ การที่มีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมาเรื่อง การห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ระบุว่าโดยปรากฏหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ถือเป็นเรื่องดี ในการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ อาทิ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น