กทม.เริ่มแล้วจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจ พร้อมตั้งโต๊ะ “จับปรับ” 115 จุด ทั่ว กทม. เอาผิดจอด-ขับขี่บนทางเท้า เริ่มต้น 500 บาท หากได้ผลเล็งขยายพื้นที่ทั่วกรุงเทพฯ
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่บริเวณอุทยานเบญจสิริ เขตคลองเตย นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดโครงการ “จุดกวดขัน จับ-ปรับ รถจอดหรือขับขี่บนทางเท้า” ไม่ให้รถจอดหรือวิ่งบนทางเท้าทุกถนนของ กทม. โดยเฉพาะ 115 จุด ที่มีการฝ่าฝืนเป็นปะจำ โดยวันแรกเจ้าหน้าที่เทศกิจจัดกำลังประจำทั้ง 115 จุด และตั้งโต๊ะจับปรับทันทีหากพบการกระทำความผิด พร้อมเดินทางไปตรวจเยี่ยมจุดกวดขันจับ-ปรับ ถนนสีลม ใกล้แยกศาลาแดง
นายสกลธี กล่าวว่า การนำรถขึ้นจอดหรือขับขี่บนทางเท้า สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ใช้ทางเท้าเป็นอันมาก แม้ กทม.จะจัดระเบียบทางเท้าทวงคืนสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้ทางเท้าให้ประชาชนสัญจรสะดวกปลอดภัย แต่ปัญหาผู้ฝ่าฝืนกลับได้รับการร้องเรียนเป็นจำนวนมาก กทม.จึงพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น กวดขันเจ้าหน้าที่ ออกกฎหมายเรื่องการแบ่งรางวัลนำจับเพื่อสร้างแรงจูงใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างสิ่งป้องกัน สร้างเครือข่ายจักรยานยนต์รับจ้างให้ช่วยเป็นหูเป็นตา และอีกนโยบาย คือ โครงการตั้งจุดกวดขัน จับ-ปรับ รถจอดหรือขับขี่บนทางเท้า ซึ่งกำหนด 115 จุดใน 50 เขต เป็นจุดกวดขันจับ-ปรับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจประจำจุด เฝ้าระวังไม่ให้มีการกระทำผิด รวมทั้งตั้งโต๊ะ จับ-ปรับ เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิด ซึ่ง กทม.คาดหวังว่าผู้ที่จะฝ่าฝืนจะเกิดความเกรงกลัวและไม่กล้ากระทำผิดอีก และจะขยายผลต่อไปยังจุดอื่นๆ ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของ กทม.
นายสกลธี กล่าวว่า สำหรับการดำเนินการคือให้สำนักงานเขตกำหนดถนนที่มีการฝ่าฝืน หรือจุดที่มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก กรณีรถจักรยานยนต์ขึ้นมาวิ่งบนทางเท้าเขตละ 1-2 เส้นทาง และจัดทำแผนการปฏิบัติงานมอบหมายให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ออกตรวจตรา เฝ้าระวังไม่ให้มีการกระทำผิดตลอดวัน โดยจะเน้นกวดขันในช่วงเวลาเร่งด่วน เช้า-เย็น หรือช่วงเวลาที่มักจะมีการฝ่าฝืนเป็นประจำ หากตรวจพบให้มีการบังคับการตามกฎหมาย พ.ร.บ. รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 โดยมีอัตราค่าปรับสูงสุด 5,000 บาท โดยตั้งโต๊ะ จับ-ปรับ ซึ่งขณะนี้ กทม.ได้อนุมัติให้สำนักงานเขตนำใบเสร็จออกไปเปรียบเทียบปรับนอกสำนักงานเขตได้ในฐานความผิดจอดหรือขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ หรือล้อเลื่อนบนทางเท้าได้ และจะมีการประเมินตลอดเวลา โดยให้สำนักงานเขตรายงานผลทุกวันผ่านไลน์ ก่อนเวลา 16:00 น. โดยเบื้องต้นจะเริ่มปรับ 500 บาท แต่ขึ้นกับพฤติการณ์ด้วย หากทำผิดซ้ำซากก็จะอาจจะปรับเพิ่มขึ้น
“หากดำเนินการอย่างจริงจัง อาจทำให้ผู้ถูกปรับอย่างน้อย 2-3 ครั้งหลาบจำ และเกรงกลัว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เทศกิจต้องกวดขันด้วย วึ่งที่ผ่านมาล้มเหลวเพราะไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำจุดตลอดเวลา หากโครงการสำเร็จก็จะขยายพื้นที่อีก” นายสกลธี กล่าว
