“บิ๊กวิน” ตรวจเยี่ยมคุณภาพอาหาร นร. ยัน ร.ร.กทม.กว่า 437 แห่ง มีคุณภาพ ไม่เป็นตามกระแสข่าว ลั่นตรวจพบอาหารกลางวันด้อยคุณภาพ ให้ออกจากราชการทันที
วันนี้ (28 มิ.ย.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายทวีศักดิ์ เลิศประพันธ์ รองผู้ว่าฯ กทม. นายสมพงษ์ เวียงแก้ว รองปลัด กทม. นางฐานิตา แพร่วานิชย์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจคุณภาพและโภชนาการอาหารของเด็กนักเรียนโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ พร้อมเปิดอาคารเรียน “ทสม ราชานุสรณ์”
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ขณะนี้ กทม. ได้เพิ่มค่าอาหารเช้าเด็กนักเรียนจากเดิม 5 บาท เป็น 10 บาทต่อคน เพื่อให้โรงเรียนจัดสรรอาหารที่มีคุณภาพทางโภชนาการแก่เด็กนักเรียนได้ ส่วนค่าอาหารกลางวัน 20 บาทต่อคน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพอาหารกลางวันต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารครบถ้วน ไม่ให้เกิดกรณีที่มีกระแสข่าวเกิดขึ้น ทั้งนี้ ยืนยันว่า อาหารโรงเรียนของ กทม.มีคุณภาพครบถ้วน และไม่มีเหตุเหมือนกระแสข่าวเด็ดขาด ส่วนตัวมองว่า หากเด็กกินไม่อิ่ม อาหารไม่มีคุณภาพ เด็กจะไม่มีพัฒนาการด้านการเรียน นอกจากนี้ กทม.พยายามยกระดับการศึกษา จึงพยายามลงตรวจเยี่ยมโรงเรียนด้วยตนเองเช่นเดียวกับการให้ทุนการศึกษาของ กทม. อาทิ ทุนเอราวัณ ทุนเรียนแพทย์และพยาบาล ฯลฯ รวมถึงประสานความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาที่มีโรงเรียนอาชีวศึกษารวม 39 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้เข้ามาจัดการเรียนการสอนสายอาชีพควบคู่กับการเรียนสายสามัญแก่เด็กนักเรียนระดับมัธยมต้นในโรงเรียนสังกัด กทม. เพิ่มทางเลือกด้านการศึกษา เพราะเด็กบางคน ม.ต้น แล้ว อยากเรียนต่อสายอาชีพที่ตนเองชื่นชอบหรือถนัด อาทิ งานช่าง งานอิเล็กทรอนิกส์ งานฝีมือ ฯลฯ สัปดาห์ละ 3 ชั่วโมง
“หลังเกิดข่าวอาหารกลางวันไม่มีคุณภาพ ได้กำชับและจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตามโรงเรียนสังกัดกทม.ทันที โดยผมเชื่อว่าจิตวิญญาณของครูบาอาจารย์นั้นย่อมรู้อยู่แล้ว หากเป็นลูกของตนเองจะจัดอาหารให้กินเช่นนั้นได้หรือ ซึ่งกทม.ก็ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าว โดยการจัดสรรงบประมาณในแต่ละโรงเรียนมีจุดประสงค์หลัก เพื่อให้เด็กได้รับการพัฒนาการทุกด้าน ทั้งด้านการเรียนและสมอง เพราะเด็กคืออนาคตของชาติ ดังนั้น กทม.จึงไม่ห่วง แต่หากตรวจพบก็จะให้ออกจากราชการทันที” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว