กทม. เร่งสร้างลิฟต์ผู้สูงอายุ คนพิการ อีก 19 ตัว ใน 16 สถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้ครบสถานีละ 4 ตัว เผยยังเหลือลิฟต์อีก 10 ตัว 5 สถานี ที่มีปัญหายังก่อสร้างเพิ่มไม่ได้ แต่จะหาวิธีดำเนินการเพิ่มเติม
วันนี้ (18 พ.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่โครงการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี (S3) เขตบางรัก ว่า กทม. โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เตรียมดำเนินโครงการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ ของระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างลิฟต์จากชั้นพื้นดินถึงชั้นจำหน่ายตั๋ว และจากชั้นจำหน่ายตั๋วถึงชั้นชานชาลา ซึ่งตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวมีสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 34 สถานี แต่ละสถานีจะต้องมีลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 4 ตัว รวมทั้งหมด 136 ตัว แต่ในขณะนี้มีลิฟต์อยู่ 107 ตัว
“ก่อนปี 2557 กทม. ได้ดำเนินการก่อสร้างลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 55 ตัว จากนั้นในปี 2557 สำนักการจราจรและขนส่งได้มีการขอจัดสรรงบประมาณเพิ่มในการก่อสร้างลิฟต์ซึ่งแล้วเสร็จในปี 2560 เพิ่มเติมอีก 52 ตัว ขณะนี้มีลิฟท์รวมทั้งหมด 107 ตัว ซึ่งยังเหลือลิฟต์ที่ยังไม่ได้ก่อสร้างอีก 29 ตัว จึงจะครบทั้งหมด 136 ตัว” นายจักกพันธุ์ กล่าว
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครองกลาง ที่ให้ กทม.จัดทำลิฟต์สำหรับผู้สูงอายุและคนพิการบริเวณสถานีรถไฟฟ้าที่ยังไม่มีลิฟต์ดังกล่าว จากการสำรวจของสำนักการจราจรและขนส่งพบว่ามีสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 16 สถานี ซึ่งยังมีลิฟต์ไม่ครบ 4 ตัว รวมแล้วต้องก่อสร้างลิฟต์เพิ่มอีก 19 ตัว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับลิฟต์ที่เหลืออีก 10 ตัว จำนวน 5 สถานี ซึ่งยังติดปัญหาอยู่ เริ่มจากสถานีตากสิน ซึ่งยังไม่มีลิฟต์ เนื่องจากสถานีตากสินเป็นรางเดี่ยว แต่ในอนาคต กทม. จะก่อสร้างเป็นรางคู่พร้อมกับการก่อสร้างลิฟต์อีก 4 ตัวไปพร้อมกัน ส่วนสถานีศาลาแดงติดปัญหาระบบสาธารณูปโภค จึงขอใช้ลิฟต์ของ รฟม.เป็นการชั่วคราวก่อน สถานีชิดลมกับสถานีเพลินจิต เนื่องจากทางเท้าแคบจึงก่อสร้างลิฟต์เพียงสถานีละ 1 ตัว และสถานีอโศกซึ่งขณะนี้มีลิฟต์อยู่ 2 ตัว โดยได้ไปใช้ลิฟต์ของเอกชนในการเชื่อมทางเข้ามา
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กทม. จะดำเนินการสร้างลิฟต์ตามลักษณะทางกายภาพที่สามารถดำเนินการได้ จำนวน 19 ตัว โดยจะเร่งดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายใน 210 วัน นับตั้งแต่เริ่มลงนามสัญญา ส่วนที่เหลืออีก 10 ตัว สำนักการจราจรและขนส่งจะดำเนินการหาแนวทางเพื่อดำเนินการก่อสร้างลิฟต์ในส่วนที่เหลือให้ครบตามมาตรฐานสถานีละ 4 ตัว ยกเว้นสถานีใดที่มีข้อจำกัดในการก่อสร้างก็จะดำเนินการเท่าที่สามารถก่อสร้างได้