รื้อถอนบ้าน 5 หลังสุดท้ายใน “ป้อมมหากาฬ” คืนนี้ ส่วนเศษซากต้องย้ายออกภายในวันที่ 29 เม.ย. ปิดฉากชุมชนป้อมมหากาฬ ก่อนเข้าปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะชั่วคราว เตรียมประสานกรมศิลป์ปรับปรุงป้อมและแนวกำแพงที่เสียหาย พร้อมปรับปรุงอาคารท่าเรือริมคลองโอ่งอ่างข้างป้อมมหากาฬใหม่
วันนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมด้วย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่า กทม. นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ปลัด กทม. และผู้บริหาร กทม. ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยในการพัฒนาพื้นที่บริเวณป้อมมหากาฬ เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน เพียงแค่เดินสำรวจบริเวณรอบป้อมมหากาฬและริมคลองโอ่งอ่าง ไม่ได้ตรวจดูการรื้อถอนบ้านเรือนแต่อย่างใด
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างบริเวณโดยรอบป้อมมหากาฬ ปัจจุบันเหลือบ้านที่อยู่ระหว่างรื้อถอน 5 หลัง ซึ่งคาดว่าภายในคืนนี้จะรื้อถอนได้ทั้งหมด ส่วนเศษซากต่างๆ จะต้องรื้อถอนออกจากพื้นที่ทั้งหมดภายในวันที่ 29 เม.ย. 2561 หลังจากนี้ กทม. จะเข้าทำการตัดแต่งต้นไม้ ขุดหน้าดินเพื่อปรับพื้นที่ และทำความสะอาดทั้งหมด เพื่อปรับปรุงเป็นสวนสาธารณะชั่วคราว นอกจากนี้ จะดำเนินการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างเวลากลางคืนและตามแนวกำแพงป้อมมหากาฬ รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราพื้นที่ อำนวยความสะดวกประชาชน และป้องกันไม่ให้คนเร่ร่อนเข้ามาแอบหลับนอน
“ภายหลังการปรับภูมิทัศน์ประชาชนสามารถเข้ามาเดินเล่น ออกกำลังกาย เที่ยวชมโบราณสถานได้ โดยจะขยายทางเท้าริมคลองโอ่งอ่างเป็น 2 เมตร ทำราวกันตก ซึ่งสำนักการระบายน้ำออกแบบเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะปรับปรุงภูมิทัศน์เป้นระยะๆ จนแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ยังมอบให้สำนักผังเมืองประสานกรมศิลปากรในการปรับปรุงตัวป้อมมหากาฬและกำแพง ซึ่งพบว่าส่วนของหลังคาป้อมและทางเท้าชำรุดเสียหาย เนื่องจากขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดยจัดสรรงบ 69 ล้านบาทในการปรับปรุงดังกล่าว” พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า สำหรับการอนุรักษ์บ้านโบราณนั้น ต้องแจงว่าบ้านเป็นสิทธิของเจ้าของบ้าน ซึ่งเจ้าของบ้านทั้งหมดแจ้งความประสงค์ขอรื้อถอนออกทั้งหมด เช่น บ้านหลอมทอง ซึ่งเดิม กทม.กำหนดอนุรักษ์ไว้ 3 - 4 หลัง ซึ่ง กทม. ก็จะช่วยขนย้ายไปยังพื้นที่ของเจ้าของบ้าน ดังนั้น ภายในป้องมมหากาฬจึงไม่มีสิ่งปลูกสร้าง คาดว่า ช่วงกลาง พ.ค. จะปรับปรุงสวนสาธารณะชั่วคราวแล้วเสร็จ ส่วนอาคารโบราณเก่าแก่คืออาคารท่าเรือพระยาญาณประกาศบริเวณริมคลองโอ่งอ่างข้างป้อมมหากาฬ กทม. ไม่มีกำหนดรื้อถอน แต่จะอนุรักษ์โดยทำการปรับปรุงอาคารภายใน ทาสี ฝากั้นห้อง ซ่อมแซมต่างๆ ให้เป้นพื้นที่นั่งพักผ่อนหรือศูนย์เรียนรู้บอกเล่าเรื่องราวของป้อมมหากาฬ
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า การปรับปรุงสวนสาธารณะชั่วคราว จะดำเนินการปูหญ้า ตัดแต่งต้นไม้ใหญ่ และล้อมต้นไม้เข้ามาปลูกในพื้นที่ 30 - 40 ต้น เป้นพวกไม้หอมโบราณ เช่น จำปี พิกุล จำปา รวงผึ้ง มะลิ ดอกแก้ว เป็นต้น แล้วจึงปรับหน้าดิน ส่วนรูปแบบถาวรจะส่งมอบให้กับสำนักผังเมืองรับผิดชอบออกแบบและปรับปรุง โดยตั้งคณะกรรมการมาจาก 4 ฝ่ายคือ สำนักผังเมือง สำนักการโยะา สำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักสิ่งแวดล้อมร่วมกันออกแบบ และมอบให้สำนักงานเขตพระนครรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัย ส่วนแมวจรจัดที่ไม่มีผู้เลี้ยง 30 - 40 ตัว จะประสานสำนักอนามัยไปดำเนินการต่อ
