กระทรวงแรงงานเตือนแรงงานไทยจะไปทำงานต่างประเทศ ระวังถูกหลอกซ้ำรอย หลังพบแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานร้านสปาในเลบานอนโดยไม่แจ้งกรมการจัดหางาน ถูกนายจ้างบังคับให้ทำอนาจาร
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้รับเรื่องร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากแรงงานหญิงไทยที่ไปทำงานร้านสปาที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เนื่องจากได้รับการชักชวนผ่านทางไลน์จากนายหน้าคนไทยที่อยู่ในเลบานอนให้ไปทำงานที่ร้านสปา และจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใบอนุญาตทำงาน และค่าวีซ่า โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ไม่รวมทิป แต่ต้องเสียค่านายหน้าคนละ 30,000 บาท ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ต้องผ่านกรมการจัดหางาน ซึ่งเมื่อแรงงานหญิงไทยเดินทางถึงเลบานอนกลับถูกบังคับให้นวดและค้าประเวณี หรือทำอนาจาร นอกจากนี้ บางรายถูกนายจ้างหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือ ค่าวีซ่า และใบอนุญาตทำงานอีกด้วย
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า แรงงานไทยดังกล่าวเดินทางไปทำงานโดยไม่ผ่านกรมการจัดหางาน และไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ถือเป็นการเดินทางไปทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไปทำงานต่างประเทศที่ถูกต้องนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาอนุญาตจากกรมการจัดหางานเพื่อป้องกันไม่ให้คนหางานถูกหลอกลวงหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง และขอย้ำว่า ผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถจัดส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้นั้น ซึ่งได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 022456708 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694
นายอนุรักษ์ ทศรัตน์ ช่วยราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานแรงงาน ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้รับเรื่องร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากแรงงานหญิงไทยที่ไปทำงานร้านสปาที่กรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เนื่องจากได้รับการชักชวนผ่านทางไลน์จากนายหน้าคนไทยที่อยู่ในเลบานอนให้ไปทำงานที่ร้านสปา และจะไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใบอนุญาตทำงาน และค่าวีซ่า โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ไม่รวมทิป แต่ต้องเสียค่านายหน้าคนละ 30,000 บาท ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่ต้องผ่านกรมการจัดหางาน ซึ่งเมื่อแรงงานหญิงไทยเดินทางถึงเลบานอนกลับถูกบังคับให้นวดและค้าประเวณี หรือทำอนาจาร นอกจากนี้ บางรายถูกนายจ้างหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด คือ ค่าวีซ่า และใบอนุญาตทำงานอีกด้วย
นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า แรงงานไทยดังกล่าวเดินทางไปทำงานโดยไม่ผ่านกรมการจัดหางาน และไม่ได้เข้าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ถือเป็นการเดินทางไปทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งการไปทำงานต่างประเทศที่ถูกต้องนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาอนุญาตจากกรมการจัดหางานเพื่อป้องกันไม่ให้คนหางานถูกหลอกลวงหรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากนายจ้าง และขอย้ำว่า ผู้ที่หลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางาน หรือสามารถจัดส่งไปฝึกงานในต่างประเทศได้นั้น ซึ่งได้ไปซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 -10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 10 หรือที่กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ โทร. 022456708 หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน 1694