นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เดือนมีนาคมที่ผ่านมามีแรงงานไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศและยังคงทำงานอยู่ในต่างประเทศ จำนวน 153,264 คน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงนิยมไปทำงานไต้หวันมากที่สุด จำนวน 74,240 คน รองลงมาเป็นอิสราเอล สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ตามลำดับ โดยทำงานตำแหน่งคนงานเกษตรมากที่สุด รองลงมาเป็นคนงานทั่วไป พนักงานทั่วไป พนักงานฝึกงาน และผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ตามลำดับ ซึ่งในส่วนของการจัดส่งโดยรัฐตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 - มีนาคม 2560 มีจำนวน 5,385 คน โดยประเทศอิสราเอลเป็นประเทศที่จัดส่งมากที่สุด จำนวน 359 คน ตามด้วยสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และไต้หวัน มีรายได้ส่งกลับประเทศผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย ณ เดือนมีนาคม 2560 จำนวน 10,249 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ส่งกลับฯ ในเดือนมีนาคม 2559 มีจำนวน 10,005 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.44
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยวิธีรัฐจัดส่งเป็นการจัดส่งของกรมการจัดหางาน ซึ่งคนหางานไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ นอกจากค่าใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเพื่อให้แรงงานไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในยุคประเทศไทย 4.0 แรงงานจะต้องพัฒนาตนเองให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตต่อไป
นายวรานนท์ กล่าวอีกว่า การเดินทางไปทำงานต่างประเทศโดยวิธีรัฐจัดส่งเป็นการจัดส่งของกรมการจัดหางาน ซึ่งคนหางานไม่ต้องเสียค่าบริการใด ๆ นอกจากค่าใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่า ค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ตามเพื่อให้แรงงานไทยมีรายได้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในยุคประเทศไทย 4.0 แรงงานจะต้องพัฒนาตนเองให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และต้องนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับชีวิตต่อไป