“หมอประกิต” ชี้ “ชายหาด” ยังไม่เป็นพื้นที่สาธารณะห้ามสูบบุหรี่ จำเป็นต้องออก กม. เพิ่มเติม หนุน ทช. นำร่องออกประกาศควบคุมชายหาดก่อน 20 แห่ง เผย สธ. อยู่ระหว่างหารือเพื่อออกกฎหมายเช่นกัน ระบุ อุทยานแห่งชาติทางทะเลห้ามสูบบุหรี่อยู่แล้ว ด้านนักวิจัยเผยควันบุหรี่มือสองในชายหาดสูงกว่าปกติ 27 เท่า อันตรายต่อสุขภาพ
จากกรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมออกกฎหมายลูกห้ามสูบบุหรี่บริเวณพื้นที่ชายหาดนำร่อง 20 แห่ง ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. 2558 เพื่อแก้ปัญหาขยะก้นบุหรี่เกลื่อนชายหาด โดยจะมีการจัดพื้นที่ให้สูบบุหรี่ก่อนลงชายหาด แต่ห้ามเดินไปสูบไปบนชายหาด คาดว่า จะประกาศใช้ พ.ย. นี้ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
วันนี้ (11 ต.ค.) ศ.นพ.ประกิต สาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีและน่าชื่นชมที่ทาง ทช. จะมีการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่บนพื้นที่ชายหาด เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่สาธารณะของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดแต่อย่างใด แต่ก็อยู่ระหว่างการหารือและพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบในการออกประกาศเพิ่มเติมให้พื้นที่ชายหาดเป็นหนึ่งในพื้นที่สาธารณะที่ห้ามสูบบุหรี่ด้วย ทั้งนี้ ในต่างประเทศมีการห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ชายหาดมานานแล้ว ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ อย่างแคลิฟอร์เนียก็มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ที่ชายหาดชัดเจน เนื่องจากก้นบุหรี่เป็นขยะหมายเลขหนึ่งของชายหาด เป็นต้น
“หากทาง สธ. จะออกประกาศเพิ่มเติมให้พื้นที่ชายหาดเป็นพื้นที่สาธารณะที่ห้ามสูบบุหรี่ ก็อาจจะต้องมีการหารือกับทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ด้วยว่า จะดำเนินการอย่างไรกับพื้นที่ชายหาดที่เหลือ เนื่องจากทาง ทช. นำร่องเพียง 20 แห่ง ส่วนการออกกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ทั้ง 2 กระทรวงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรือซ้ำซ้อน เพราะอย่างการห้ามสูบบุหรี่บนรถสาธารณะก็มีทั้งกฎหมายของ สธ. และของกรมขนส่งทางบกตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก เป็นต้น” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
เมื่อถามถึงสถานประกอบการหรือร้านอาหารในพื้นที่ชายหาด ถือเป็นพื้นที่สาธารณะที่ห้ามสูบบุหรี่อยู่แล้วหรือไม่ ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า ถ้าเป็นร้านอาหารถือเป็นสถานที่สาธารณะตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ตามชายหาดมักไม่ค่อยมีปัญหา เพราะพื้นที่ร้านไม่มากก็มักเดินออกมาสูบตามชายหาดอยู่แล้ว แต่หากห้ามสูบพื้นที่ชายหาดก็คงออกมาสูบไม่ได้ คงต้องสูบในพื้นที่ที่กำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นชายหาดตามอุทยานแห่งชาติทางทะเลห้ามสูบบุหรี่อยู่แล้วหรือไม่ ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า อุทยานแห่งชาติทั้งทางบกและทางทะเล มีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่เป็นเฉพาะส่วนที่เป็นอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ในต่างประเทศการห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ นอกจากประเด็นเรื่องของขยะแล้ว ยังห้ามเพราะอาจทำให้เกิดไฟไหม้ป่าด้วย
ด้าน รศ.ดร.นิภาพรรณ กังสกุลนิติ อาจารย์คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากการทำวิจัยโครงการศึกษาการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสองของผู้ที่พักผ่อนในบริเวณชายหาด 2 แห่ง ที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย ปี 2560 โดยการตรวจวัดปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดถึงการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสองที่บริเวณที่พักผ่อนใต้ร่มและเก้าอี้ผ้าใบ โดยจุดตรวจวัดอยู่ใกล้กับผู้สูบบุหรี่ในทิศทางใต้ลมของผู้สูบบุหรี่ พบว่า ผลการตรวจวัดใน 2 ชายหาด ได้พบปริมาณฝุ่นขนาดเล็กมีค่าเฉลี่ย 260 และ 504 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และพบค่าสูงสุดถึง 716 และ 1,335 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และเมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพอากาศของประเทศไทย ซึ่งกำหนดปริมาณฝุ่นขนาดเล็กไว้ที่ 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร พบมีปริมาณฝุ่นขนาดเล็กสูงกว่ามาตรฐานกำหนดหลายเท่า หรือสูงถึงประมาณ 27 เท่า ดังนั้น คุณภาพอากาศในบริเวณดังกล่าวจึงไม่เหมาะสมกับการเป็นชายหาดมีชื่อเสียงซึ่งผู้คนมาพักผ่อน และที่สำคัญเป็นการแสดงถึงการได้รับสัมผัสควันบุหรี่มือสองอย่างมาก
“จากการลงภาคสนามพบเด็กจำนวนมากอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ดังนั้น จึงเห็นด้วยกับมาตรการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำลังเตรียมออกระเบียบห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณชายหาด เพื่อลดควันบุหรี่มือสองซึ่งทำลายสุขภาพด้วย” รศ.ดร.นิภาพรรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุทยานแห่งชาติทางทะเลจัดเป็นพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ โดยปัจจุบันมีอุทยานแห่งชาติทางทะเลทั้งหมด 24 แห่ง ประกอบด้วย 1. อุทยานแห่งชาติตะรุเตา 2. อุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง 3. อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา 4. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ 5. อุทยาน แห่งชาติสิรินาถ 6. อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด 7. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 8. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 9. อุทยานแห่งชาติแหลมสน 10. อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี 11. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา 12. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
13. อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม 14. อุทยานแห่งชาติเขาลำปี - หาดท้ายเหมือง 15.อุทยานแห่งชาติเขาหลัก - ลำรู่ 16. อุทยานแห่งชาติหาดวนกร 17. อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ - เกาะพะงัน 18. อุทยาน แห่งชาติธารโบกขรณี 19. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร 20. อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี 21. อุทยาน แห่งชาติหมู่เกาะพยาม 22. อุทยานแห่งชาติหาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ 23. อุทยานแห่งชาติทะเลบัน และ 24. อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด