สปสช. แจง รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ผ่านเกณฑ์หน่วยรับส่งต่อรักษาโรคหัวใจ เหตุมองต่างมุมเรื่องมีแพทย์ประจำเวลาราชการ ทำคนไข้ผ่าตัดหัวใจฟรีไม่ได้ช่วง ต.ค.- ธ.ค. 40 - 50 ราย เตรียมประสานส่งต่อผ่าตัดที่อื่นแทน
นพ.ประจักษวิช เล็บนาค รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงกรณีรพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ผ่านการขึ้นทะเบียนเป้นหน่วยบริการรับส่งต่อผ่าตัดหัวใจ ทำให้ผ่าตัดและใส่สายสวนหัวใจฟรีแก่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองไม่ได้ ว่า ต้องขอย้ำว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ยังเป็นหน่วยบริการประจำและยังรักษาประชาชนสิทธิบัตรทองได้เหมือนเดิม แต่กรณีการรักษาโรคหัวใจต้องเป็นไปตามเกณฑ์หน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะโรคหัวใจ ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อ พ.ค. 2560 และบังคับใช้ ต.ค. นี้ โดยเกณฑ์นี้จะใช้กับหน่วยบริการที่ผ่าตัดหัวใจ มี 5 ด้าน คือ 1. สถานที่ อุปกรณ์ ต้องมีห้องผ่าตัด 2. บุคลากรที่ดูแล 3. เกณฑ์ด้านการจัดการ 4. ด้านการบริการ และ 5. ด้านการให้ข้อมูล ซึ่งเกณฑ์นี้บังคับทั้งหมดทั้ง รพ.รัฐ และ เอกชน
นพ.ประจักษวิช กล่าวว่า สำหรับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ไม่ผ่านเกณฑ์เดียว คือ เรื่องของบุคลากรที่ต้องมีแพทย์เฉพาะทางศัลยกรรมหัวใจ หลอดเลือด และทรวงอก ปฏิบัติงานประจำเต็มเวลาในเวลาราชการอย่างน้อย 1 คน ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องคุณภาพบริการ ซึ่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ มีมุมมองที่แตกต่าง เพราะมองว่า เป็น รพ.เอกชน ไม่มีเวลาราชการเหมือนรัฐ เพราะทำ 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่ง สปสช. ก็มีการชี้แจงและหารือกับ รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่งจริงๆ มองในเกณฑ์ผู้ให้บริการน่าจะเป็นประโยชน์ตรงที่มีชื่อมีตัวตนของแพทย์ และคณะทำงานในการกำหนดเกณฑ์ก็มองว่าเกณฑ์นี้มีประโยชน์ ไม่ควรตัดออก เพราะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน
“ขอย้ำว่า รพ.มงกุฎวัฒนะ ยังมีมาตรฐาน มีคุณภาพในการให้บริการตามเดิม เพียงแต่ไม่ผ่านเกณฑ์ข้อย่อยข้อเดียว จึงไม่สามารถขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อรักษาโรคหัวใจได้ สำหรับคนไข้ที่รอคิวอยู่นั้น สปสช. จะหา รพ. ให้และทำเรื่องส่งต่อไปยัง รพ. อื่นแทน อย่างไรก็ตาม การส่งต่อไป รพ. อื่นอาจต้องใช้เวลา แต่ยืนยันว่า ผู้ป่วยทุกคนจะได้รับการรักษา ไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นไปตามเกณฑ์และกฎหมายของ สปสช. ซึ่งผู้ป่วยสามารถติดต่อมาที่ สปสช. ได้ ส่วนผู้ป่วยที่ยืนยันจะผ่าตัดที่ รพ.มงกุฎวัฒนะ ก็ต้องรอให้เป็นไปตามเกณฑ์ ไม่อย่างนั้นก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง แต่ทาง สปสช. ก็หวังว่าทาง รพ.มงกุฎวัฒนะจะปฏิบัติตามข้อกำหนด” นพ.ประจักษวิช กล่าว