“ธนะศักดิ์” ระบุ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ ให้กรมศิลป์เป็นศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูลพระเมรุมาศ ด้าน ท่านผู้หญิงบุตรี ให้มีสถานที่วางดอกไม้จันทน์ พร้อมให้จังหวัดส่งมอบช่อดอกไม้จันทน์ 1 ช่อส่งเสด็จในหลวง ร.๙ ด้านช่างสิบหมู่ เตรียมประดับเครื่องประดับมหาพิชัยราชรถงดงาม กลางเดือนสิงหาคมนี้
วันนี้ (3 ส.ค.) ที่หอวชิราวุธานุสรณ์ หอสมุดแห่งชาติ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “การใช้คำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ว่า ประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งประเทศ ดังนั้น ในการพระราชพิธีครั้งประวัติศาสตร์นี้ รัฐบาลและทุกภาคจึงพร้อมใจกันปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณให้นานาประเทศได้เห็นถึงความเป็นหนึ่งเดียวในโลก ดังนั้น การใช้คำราชาศัพท์ และคำศัพท์ จึงมีความสำคัญเนื่องจากสื่อมวลชนจะเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในพระราชพิธีได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมตามหลักโบราณราชประเพณี พร้อมให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อสร้างพระเมรุมาศ ตลอดจนศิลปกรรมประกอบตามหลักโบราณราชประเพณี พร้อมรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีทั้งหมดให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการประจำสำนักพระราชวังพิเศษ สำนักพระราชวัง บรรยายพิเศษ เรื่อง การใช้คำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธีพระบรมศพ ว่า ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เปรียบเสมือนองค์สมมติเทพจึงต้องมีการใช้คำราชาศัพท์ ซึ่งเป็นคำสุภาพแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรมและจารีตประเพณี เมื่อจะส่งเสด็จสู่สรวงสวรรค์จึงมีการก่อสร้างพระเมรุมาศเหมือนดั่งเขาพระสุเมรุ เพื่อถวายพระเกียรติยศ และการก่อสร้างในพระเมรุมาศครั้งนี้ การจัดภูมิทัศน์มีนาข้าวสื่อถึงพระมหากรุณาธิคุณด้านการเกษตรที่เกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ ตลอดเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติทรงปกครองแผ่นดินด้วยหลักทศพิธราชธรรมและปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อให้พสกนิกรได้อยู่ดีกินดี และในการพระราชพิธีครั้งนี้ถือเป็นงานประวัติศาสตร์ของชาติ ดังนั้น ประชาชนจึงอาจจะเข้าถึงพื้นที่ได้ไม่มากจึงเน้นมีจุดซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ทั่วประเทศ และทั่วโลก เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมส่งเสด็จ
ท่านผู้หญิงบุตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้ขอให้มีสถานที่วางดอกไม้จันทน์มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มารวมตัวถวายดอกไม้จันทน์ส่งเสด็จในหลวง รัชกาลที่ ๙ สำหรับประชาชนใน 77 จังหวัด นอกจากรัฐบาลกำหนดพื้นที่วางดอกไม้จันทน์ตามวัดต่างๆ แล้ว ยังให้แต่ละจังหวัดประกอบพิธีแล้วส่งมอบไม้จันทน์ 1 ช่อ มาที่พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง สำหรับในต่างประเทศขอให้ทุกประเทศที่มีทูตานุทูตและกงสุล ชุมชนไทยในต่างประเทศส่งดอกไม้จันทน์เป็นตัวแทนมาร่วมถวาย ด้วยเหตุพื้นที่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพมีอย่างจำกัด จึงต้องจำกัดผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเข้าใจว่าคนไทยทุกคนรวมใจมาส่งเสด็จ ระลึกถึงพระองค์ และอยากทำดีที่สุดเพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุด ซึ่งผู้ที่ไม่สามารถมาร่วมงานได้ หรือ เข้าไม่ถึง ก็ไม่เป็นไร จะมีการเผยแพร่พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ในส่วนการจัดทำซุ้มวางดอกไม้จันทน์ รูปแบบต่างๆ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีรับสั่งว่า ทรงต้องการให้ประชาชนได้เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ ในขณะนี้ กรมศิลปากร ได้ดำเนินการออกแบบต้นแบบซุ้มวางดอกไม้จันทน์เรียบร้อยแล้ว
นายเจษฎา ชีวะวิชวาลกุล หัวหน้ากลุ่มวิศวกรรมสำนักสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร กล่าวว่า การจัดสร้างพระเมรุมาศ และสิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ มีความคืบหน้าไปตามลำดับ โดยในส่วนของพระเมรุมาศเตรียมงานกระดาษทองย่น รวมถึงมีการปรับหน้าดินและปูพื้นบริเวณด้านหน้าพระที่นั่งทรงเต็มพื้นที่แล้ว ส่วนอีกด้านยังไม่ได้ดำเนินการเพราะต้องเปิดทางไว้สำหรับรถขนส่งอุปกรณ์เข้าออก สำหรับอาคารประกอบอื่นๆ เช่น พระที่นั่งทรงธรรม เข้าสู่งานประดับผ้าทองย่น ทับเกษตร ทิม ศาลาลูกอยู่ระหว่างเก็บรายละเอียดงานสถาปัตยกรรม อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ถือว่าอยู่ระหว่างการทำงานด้านภูมิสถาปัตยกรรม โดยสระอโนดาตโครงสร้างทั้ง 4 มุมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทดลองพ่นสีฟ้า เตรียมนำศิลปกรรมสัตว์หิมพานต์มาติดตั้ง ขณะที่ทางสวนนงนุชเริ่มเข้ามาดูพื้นที่เพื่อเตรียมต้นไม้ประดับพระเมรุมาศทางกรมการข้าวได้เข้าให้คำแนะนำในการเตรียมจัดทำแปลงนาข้าว
นางวิจิตร ไชยวิชิต ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านศิลปกรรม สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ภาพรวมความคืบหน้าในการบูรณปฏิสังขรณ์พระมหาพิชัยราชรถ ขณะนี้แล้วเสร็จ 90% ยังเหลืองานประดับกระจกลวดลายเทพพนม 30 องค์จากทั้งหมด 138 องค์ หากแล้วเสร็จจะประกอบเข้ากับฐานเบญจาองค์พระมหาพิชัยราชรถ ขณะที่เครื่องประดับราชรถจะนำเฟื่อง อุบะ และ ระย้า ประดับพระมหาพิชัยราชรถให้งดงามกลางเดือน ส.ค. นี้ ในระหว่างนี้กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์เร่งดำเนินการทำความสะอาดพื้นผิวทองเดิมที่ไม่ได้ปิดทองใหม่ให้สีทองสุกปลั่ง นอกจากนี้ ในส่วนการบูรณะราชรถน้อยได้ประดับกระจกชั้นฐานเบญจาใหม่ทั้งหมดเสร็จแล้ว เหลือแต่ลวดลายกระจัง ลายของนาคปรก ที่ต้องดำเนินการต่อไป ส่วนลวดลายอื่นๆ จะเทียบประกอบเร็วๆ นี้ คาดว่า ภายในเดือนสิงหาคมจะบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศทั้งหมดแล้วเสร็จ และในเดือนกันยายนจะตรวจดูความเรียบร้อยและเพิ่มเติมในส่วนรายละเอียดเพื่อให้สมบูรณ์ที่สุด