5 ข้ออันตรายจากการ “ผ่าคลอด” ทั้งภาวะแทรกซ้อนจากยาสลบ เสียเลือดมากกว่าคลอดธรรมชาติ ติดเชื้อง่าย เสี่ยงผ่าตัดถูกอวัยวะอื่น เจ็บแผลนานกว่า ย้ำการคลอดควรเป็นกระบวนตามธรรมชาติ ผ่าตัดกรณีมีความจำเป็น
จากกรณี รศ.นพ.เอกชัย โควาวิสารัช นายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรม สาขาสูตินรีเวชกรรม กลุ่มงานสูตินรีเวชศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ในฐานะประธานอนุกรรมการกิจการพิเศษ ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ออกมาระบุว่า อัตราการผ่าคลอดของไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ซึ่งกลายเป็นค่านิยมใหม่ทั้งที่ไม่จำเป็น เนื่องจากการผ่าคลอดมีอันตรายมากกว่าทางช่องคลอด
รศ.นพ.วิทยา ถิฐาพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เขียนบทความเรื่อง “จะคลอดธรรมชาติ หรือ ผ่าคลอดดีนะ?” ในเว็บไซต์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล โดยระบุว่า แม้จะยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การผ่าตัดคลอดในปัจจุบันมีความปลอดภัยค่อนข้างสูง แต่ไม่ได้หมายความว่า การผ่าตัดคลอดจะไม่มีอันตรายอะไรเลย และเมื่อเปรียบเทียบกับการคลอดทางช่องคลอดแล้ว การผ่าตัดคลอดก็ยังคงมีอันตรายมากกว่าการคลอดทางช่องคลอดอยู่ดี โดยอันตรายจากการผ่าตัดคลอดเมื่อเปรียบเทียบกับการคลอดทางช่องคลอดที่ควรทราบมีหลายประการ ได้แก่
1. การผ่าตัดคลอดจะทำได้ คุณแม่ต้องได้รับยาระงับความรู้สึกหรือยาสลบ ซึ่งบางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เช่น การมีความดันโลหิตลดต่ำลงทันทีจากการบล็อกหลัง การสำลักน้ำหรืออาหารเข้าไปในหลอดลมจากการดมยาสลบ นอกจากปัญหาที่แม่แล้ว ลูกที่คลอดออกมาจากแม่ที่ได้รับยาสลบอาจเกิดการขาดออกซิเจนและตัวเขียวได้
2. การผ่าคลอดต้องใช้มีดกรีดทั้งที่หน้าท้องและมดลูกเป็นแผลขนาดใหญ่ ทุกครั้งที่กรีดมีด
จะมีการเสียเลือดจำนวนไม่น้อยตามมา ในขณะที่การคลอดทางช่องคลอดมีแผลที่ช่องคลอดเพียงเล็กน้อยและเสียเลือดน้อยกว่ากันมาก ถ้าคุณแม่ที่มีปัญหาเลือดจางอยู่แล้ว ถ้าต้องรับการผ่าคลอดอาจเกิดอันตรายได้ง่าย
3. การผ่าตัดคลอดมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าการคลอดทางช่องคลอด และมักเป็นการติดเชื้อที่รุนแรงในช่องท้อง บางรายอาจเสียชีวิตได้ 4. การผ่าตัดคลอดมีโอกาสลงมีดไปโดนอวัยวะอื่น เช่น ลำไส้หรือ กระเพาะปัสสาวะได้ โดยเฉพาะในรายที่เป็นการผ่าตัดคลอดท้องหลังซึ่งการผ่าตัดครั้งแรกมีพังผืดในช่องท้องค่อนข้างมาก และ 5. การผ่าตัดคลอดจะทำให้คุณแม่เจ็บแผลหลังคลอดมากและนานกว่าการคลอดทางช่องคลอด บางคนผ่ามา 3 - 5 วันแล้วยังเดินไม่ค่อยไหว ให้ลูกกินนมแม่ยังไม่ได้เพราะปวดแผลก็มี แต่ถ้าคลอดทางช่องคลอดหลังคลอดวันเดียวก็เดินได้แล้ว
เคยผ่าคลอดแล้วต้องผ่าอีกหรือไม่นั้น รศ.นพ.วิทยา ระบุในบทความว่า ภายหลังการผ่าตัดคลอด มดลูกของคุณแม่จะมีแผลที่เกิดจากการผ่าตัด ซึ่งจะทำให้มดลูกไม่แข็งแรง คล้ายแก้วที่เคยร้าวและใช้กาวเชื่อมติดไว้ เมื่อมีการตั้งท้องครั้งใหม่มดลูกของคุณแม่อาจแตกได้ตอนใกล้ๆ คลอดหรือตอนเจ็บท้องคลอด ดังนั้น คุณหมอส่วนมากจึงมักแนะนำให้คุณแม่ที่เคยผ่าคลอดมาแล้วรับการผ่าตัดคลอดซ้ำ โดยการผ่าตัดครั้งหลังนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้คุณแม่เจ็บท้องก่อน มีคุณแม่บางรายที่เคยผ่าตัดคลอดมาก่อนและคุณหมอแนะนำให้คลอดทางช่องคลอดได้ รายเช่นนี้คุณหมอต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างละเอียดว่าต้องไม่เสี่ยงต่อการแตกของมดลูก เช่น ลูกต้องตัวไม่ใหญ่มาก แม่มีแรงเบ่งดี เป็นต้น ในขณะดูแลคุณแม่ตอนเจ็บท้องคลอดก็ต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถดูแลคุณแม่อย่างดี มีอุปกรณ์ดูแลพร้อมเพรียงและถ้าจำเป็นสามารถผ่าตัดคลอดได้ทันที
“การคลอดเป็นขบวนการตามธรรมชาติ จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ การผ่าตัดคลอดโดยไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่เพียงพอ อาจทำให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์เสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็นได้ ขอให้คุณแม่คลอดลูกโดย “ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย” กันทุกคนนะครับ" รศ.นพ.วิทยา ระบุในบทความ