xs
xsm
sm
md
lg

ไม่มีขึ้นทะเบียน “แรงงานต่างด้าว” อีกรอบตามข่าวลือ เตือนรีบมาศูนย์รับแจ้งฯ ทำลูกจ้างเถื่อนให้ถูก กม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ก.แรงงาน ยันไม่มีเปิดขึ้นทะเบียน “แรงงานต่างด้าว” อีกตามข่าวลือ ขอให้รีบมาแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวในวันที่ 24 ก.ค. - 7 ส.ค. ก่อนเอาจริงบังคับใช้บทลงโทษ 1 ม.ค. 61 พร้อมแจงขั้นตอนยิบการรับแจ้งการทำงานคนต่างด้าว 3 สัญชาติ

วันนี้ (21 ก.ค.) ม.ล.ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าววันแรกวันที่ 24 ก.ค. นี้ ว่า การแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวจะต้องใช้แบบฟอร์มมายื่น พร้อมบัตรประชาชนของนายจ้าง สำเนาการรับรองการเป็นนิติบุคคล และรูปถ่ายลูกจ้างขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เว็บไซต์ www.doe.go.th ใช้เวลาประมาณ 15 นาที หรือหากไม่สะดวกเดินทางไปยื่นที่ศูนย์เฉพาะกิจฯ ก็สามารถยื่นเรื่องได้ทางเว็บไซต์ได้ ขอให้นายจ้างดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 7 ส.ค. นี้ และเดินหน้าสู่ขั้นตอนที่ 2 คือการตรวจสอบความเป็นนายจ้างลูกจ้างจริงหรือไม่ ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. - 6 ก.ย.

“ส่วนความคืบหน้าการปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 39 ฉบับ รวมถึงเรื่อง 39 อาชีพสงวนของคนไทย ที่จะต้องมาดูใหม่ว่าอะไรที่จะปรับให้แรงงานต่างด้าวทำได้หรือไม่นั้น ตอนนี้ฟอร์มทีมขึ้นทำแต่ละเรื่องแล้ว โดยหลักเรื่องไหนเกี่ยวกับใครบ้างก็จะมีการรับฟังความเห็น แต่การปรับแก้จริงๆ จะใช้ทีมกฎหมายของกระทรวง ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่ามีเรื่องอะไรบ้าง” ม.ล.ปุณฑริก กล่าว

ด้าน นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษก ก.แรงงาน กล่าวว่า ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าวจะมีการเปิด 101 แห่งทั่วประเทศ โดยจังหวัดที่มีแรงงานต่างด้าวเกิน 5 หมื่นคน จะเปิด 4 - 5 ศูนย์ ส่วนข่าวลือว่านายจ้างไม่ต้องไปยื่นแจ้งการทำงานของแรงงานต่างด้าวที่เปิดให้แจ้งในช่วง 15 วันนี้ เพราะจะมีการเปิดจดทะเบียนอีก ขอยืนยันว่า ตามคำสั่ง คสช. ระบุชัดเจนว่า ชะลอการบังคับใช้บทลงโทษ 4 มาตราถึง 31 ธ.ค. นี้ เท่านั้น โดยวันที่ 1 ม.ค. 2561 จะมีการจับกุม ลงโทษนายจ้างและแรงงานต่างด้าวที่ทำผิดกฎหมายทันที ดังนั้น อย่านิ่งนอนใจ ขอให้รีบมาแจ้งการทำงานภายในวันที่กำหนด เพราะหลังวันที่ 7 ส.ค. จะไม่มีการขยายเวลารับแจ้งการทำงานให้อีก และจะไม่มีการเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวอีก

นายอนันต์ชัย กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนตรวจสอบความเป็นนายจ้างลูกจ้าง ทั้งนายจ้างและลูกจ้างต้องเดินทางมาพร้อมกันเพื่อรับการตรวจสอบ และยืนยันว่า เป็นนายจ้างลูกจ้างกันจริง โดยหลักขอให้เป็นนายจ้างลูกจ้างกันก่อนวันที่ 23 มิ.ย. 2560 และยังดูว่าเป็นแรงงานเด็กหรือไม่ ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบตามรูปแบบเช็กลิสต์ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกัน ยืนยันว่าไม่มีการเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจที่อาจจะนำไปสู่การเรียกรับผลประโยชน์เพื่อให้รับรองสถานะการทำงานให้ตามที่มีความกังวลกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในเช็กลิสต์ที่จะใช้ ทั้งนี้ เมื่อได้รับการรับรองแล้วเจ้าหน้าที่จะออกเอกสารรับรองการออกนอกพื้นที่ให้กับแรงงานต่างด้าวเพื่อไปดำเนินการพิสูจน์สัญชาติก่อนขอใบอนุญาตทำงานต่อไป

“ขั้นตอนการพิสูจน์สัญชาติ ขอให้แรงงานสัญชาติพม่าไปที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสชำระค่าธรรมเนียม 300 บาท บวกค่าบริการ 10 บาท เพื่อรับวันนัดหมายในการพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งมี 5 ศูนย์ คือ สมุทรสาคร สมุทรปราการ ระนอง อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.แม่สาย จ.เชียงใหม่ ส่วนสัญชาติกัมพูชาให้ไปชำระค่าธรรมเนียมที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส 2,350 บาท บวกค่าดำเนินการ 10 บาท ก่อนรับใบนัดหมายวันที่จะต้องไปพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งไปดำเนินการได้ที่ศูนย์พิสูจน์สัญชาติ จ.ระยอง ซึ่งศูนย์พิสูจน์สัญชาติทั้งพม่าและกัมพูชา จะเป็นวันสต็อปเซอร์วิส คือ ให้บริการประทับตราวีซ่าเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท การตรวจสุขภาพและซื้อประกันสุขภาพโดยกระทรวงสาธารณสุข มีค่าใช้จ่าย 1,000 บาท และขอรับใบอนุญาตทำงานโดยกระทรวงแรงงาน มีค่าธรรมเนียม 550 บาทได้เลย โดยอนุญาตให้ทำงานถึง 31 มี.ค. 2561” นายอนันต์ชัย กล่าว

นายอนัต์ชัย กล่าวว่า สำหรับแรงงานชาวลาวต้องเดินทางกลับไปที่ประเทศต้นทาง เพื่อทำหนังสือเดินทางให้ถูกต้อง โดยขั้นตอนให้ไปติดต่อสถานทูตลาวใน กทม. และสถานกงสุลที่ จ.ขอนแก่น เพื่อรับหนังสือออกนอกประเทศ ซึ่งก่อนผ่าน ตม. ให้ใช้เอกสารรับรองการออกนอกพื้นที่ที่กระทรวงแรงงานออกให้ไปแสดงด้วย ไม่มีค่าใช้จ่าย หากมีเอกสารนี้แล้วยังถูกเรียกรับเงินให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานได้ทุกช่องทาง หรือแจ้งไปที่ คสช. ได้ ซึ่งตรงนี้นายกรัฐมนตรี และ รมว.แรงงาน ให้ความสำคัญมากว่าต้องไม่มีการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ หากมีจะต้องถูกลงโทษอย่างหนักทั้งทางวินัยและอาญา ทั้งนี้ เมื่อได้เอกสารเดินทางที่ประเทศต้นทางออกให้แล้ว ให้กลับเข้ามาที่ ตม. ประทับตราวีซ่า มีค่าใช้จ่าย 500 บาท ไป รพ.รัฐ เพื่อตรวจสุขภาพ และซื้อประกันสุขภาพรวม 1,000 บาท และไปขอออนุญาตทำงานมีค่าใช้จ่าย 550 บาท



กำลังโหลดความคิดเห็น