เตรียมวางแผนจัดนิทรรศการหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิง เปิดให้ประชาชนเข้าชม 1 - 30 พ.ย. ยึดหลักสมพระเกียรติ พอเพียง และเกิดประโยชน์สูงสุด เผยใช้คิวอาร์โค้ดใส่คำอธิบายพระเมรุมาศ ประติมากรรม ทั้งภาษาไทย - อังกฤษ
วันนี้ (19 ก.ค.) ที่กระทรวงวัฒนธรรม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมี ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ ประจำสำนักพระราชวังพิเศษ สำนักพระราชวัง นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบแนวทางการดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมจัดนิทรรศการภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดจนเผยแพร่พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ตลอดจนให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ระหว่างวันที่ 1 - 30 พ.ย. 2560
พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้แบ่งกลุ่มหมวดหมู่งานมอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบไปดำเนินงาน 5 กลุ่มงานหลัก ได้แก่ 1. กลุ่มจัดนิทรรศการเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ ๙ รับผิดชอบโดยสำนักพระราชวัง กรมศิลปากร มูลนิธิที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดบริเวณพระที่นั่งทรงธรรม ส่วนบริเวณด้านทางขึ้นพระที่นั่งทรงธรรมจะมีการจัดแสดงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ 2. กลุ่มนิทรรศการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ตลอดจนการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ - ราชยาน งานประณีตศิลป์และศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศ ซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกโดยกรมศิลปากร 3. แม่ทัพภาคที่ 1 รับผิดชอบกลุ่มงานจราจร และการรักษาความปลอดภัย 4. การบริหารจัดการและการประสานงานเข้าชมและประชาสัมพันธ์งานมอบหมายให้ วธ. รับผิดชอบ 5. กลุ่มกิจกรรมและการแสดงบริเวณหน้าพระเมรุมาศ ศาลาลูกขุน และพื้นที่ฝั่งทิศเหนือท้องสนามหลวง ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานไปจัดทำแผนการดำเนินงานตลอดจนงบประมาณให้แล้วเสร็จ โดยจะมีการประชุมสรุปแผนงานในวันที่ 10 ส.ค. นี้เวลา 09.00 น.
“เน้นย้ำให้งานดูดี สมพระเกียรติ พอเพียง และเกิดประโยชน์สูงที่สุด ทั้งนี้ ในส่วนการแสดงมหรสพนั้น จะจัดแสดงทุกวัน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ บริเวณเวทีใหญ่ที่จะจัดเป็นรอบๆ ซึ่งจะมีการแสดงเหมือนกับช่วงพระราชพิธีจริง และบริเวณลานพระเมรุมาศ ซึ่งบประชาชนจำนวนมากที่จะเข้ามาชมนิทรรศการนั้น เชื่อว่าสามารถรับมือได้ โดยจะพยายามจัดระบบการเข้าชม เช่น การเข้าชมพระเมรุมาศจะกำหนดเป็นกลุ่ม กำหนดเส้นทาง และ ดูเรื่องการรับน้ำหนัก พระที่นั่งทรงธรรมจะมีวิทยากรนำบรรยายเป็นกลุ่มๆอย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุมแผนแล้วเสร็จจะมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบต่อไป” พลเอก ธนะศักดิ์ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวว่า การจัดระบบนำชมครั้งนี้ ในส่วนของกรมศิลปากรได้เตรียมระบบคิวอาร์โค้ดทั้งภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ รองรับการเข้าชมของประชาชนที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก โดยการใช้ระบบคิวอาร์โค้ดนี้จะใส่รายละเอียดของพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ โดยจะมีคำอธิบายทั้งในเรื่องของรูปแบบ และคติความเชื่อตามโบราณราชประเพณีของการก่อสร้างพระเมรุมาศ และองค์ประกอบโดยรอบจัดไว้จุดที่สำคัญ ตลอดจนงานประติมากรรม ทั้งองค์มหาเทพ ท้าวจตุโลกบาล ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน ลดการอธิบายของวิทยากรนำชม ที่สำคัญยังช่วยให้ประชาชนเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น
นายวีระ กล่าวเสริมว่า การจัดแสดงนิทรรศการบนพระที่นั่งทรงธรรมนั้น ในเบื้องต้น แบ่งพื้นที่ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 จะจัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจและการทรงงาน ธรรมราชา เศรษฐกิจพอเพียง ส่วนที่ 2 สืบสานสมานมิตร ที่จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจในต่างประเทศ ตลอดจนพระเกียรติคุณที่เป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ โดยเฉพาะเศรษฐกิจพอเพียงที่ถือว่าเป็นพระราชดำริเป็นที่ยอมรับมากที่สุดจากสหประชาชาติ โดยแต่ละส่วนจะมี 3 เรื่องใหญ่ และลานพระราชพิธีจะจัดแสดงให้มีบรรยากาศคล้ายๆ ในพระราชพิธีจริง มีการจัดนิทรรศการ และการแสดงรายรอบอาคารทั้งศาลาลูกขุน ทิม ทับเกษตร ขณะที่บริเวณพระที่นั่งทรงธรรมนั้น จะจัดนิทรรศการไว้บริเวณตรงกลางเพื่อเปิดทางให้เข้าออกได้สะดวกโดยจะให้เข้าทางด้านทิศใต้ และออกทางวัดมหาธาตุ