สธ. แจงชายออสซีป่วยไข้สมองอักเสบตายหลังมาเที่ยว “ภูเก็ต” ไม่น่ากังวล เหตุเมืองไทยเกิดโรคได้น้อย มีการฉีดวัคซีนป้องกันแต่เด็ก ด้านหมอจุฬาฯ ย้ำเดินทางไปต่างประเทศต้องศึกษาโรคประจำถิ่น พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันก่อน
วันนี้ (22 มิ.ย.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีข่าวชาวออสเตรเลียที่เพิ่งเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวที่ จ.ภูเก็ต ประเทศไทย แล้วเสียชีวิตจากการติดเชื้อไข้สมองอักเสบ ว่า จากการตรวจสอบเป็นเชื้อไข้สมองอักเสบเจอี ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์การเกิดโรคได้น้อยมากในประเทศไทย เนื่องจากมีการให้วัคซีนป้องกันโรคตั้งแต่เด็ก แต่คนที่ไม่เคยได้รับวัคซีนก็ยังมีความเสี่ยงที่จะถูกยุงกัดและติดเชื้อได้ เช่น ชาวต่างชาติที่ไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน เพราะที่ประเทศนั้นไม่มีโรค อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเมืองไทยเกิดโรคนี้น้อย เจอคนป่วยได้น้อย ในต่างประเทศเองก็เข้าใจว่าเป็นโรคที่เจอได้น้อย จนไม่ถึงกับต้องประกาศเตือน หรือออกเป็นข้อกำหนดว่าต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรคก่อนเดินทางมาไทย ดังนั้น ควรป้องกันตัวเองอย่าให้ยุงกัด
ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา อาจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า กรณีนี้ไม่ใช่เรื่องน่าวิตกกังวล สามารถพบได้ในไทย และไทยก็มีการบรรจุวัคซีนเจอีในชุดสิทธิประโยชน์และมีการฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่เด็กๆ อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วการเดินทางไปต่างประเทศต้องมีการศึกษาก่อนว่า ประเทศที่เราจะเดินทางไปมีโรคอะไรบ้าง รวมทั้งต้องมีการปรึกษาเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศอื่นอยู่แล้ว อย่างคนไทยเวลาจะเดินทางไปประเทศแถบแอฟริกา หรืออเมริกาใต้ ก็จะต้องมีการฉีดวัคซีนไข้เหลือง เพื่อป้องกันโรคประจำถิ่นนั้นๆ เป็นต้น นอกจากนี้ จากการเฝ้าระวังโรคไข้สมองอักเสบก็ยังไม่พบอะไรที่น่ากังวล
