“ธนะศักดิ์” เผยภาพรวมพระเมรุมาศคืบหน้ากว่ากำหนด เตรียมเชิญ นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจพระเมรุมาศต้นเดือน ก.ค. ระบุฝนไม่เป็นอุปสรรค
วันนี้ (21 มิ.ย.) ที่ท้องสนามหลวง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ โดยมี นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร รายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน โดย พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ภาพรวมงานก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบทุกอาคารคืบหน้ากว่า 50% และทำงานได้เร็วกว่าแผนงานที่กำหนดไว้ ขณะนี้โครงสร้างหลักของบุษบกประธาน บุษบกซ่าง และบุษบกหอเปลื้อง รวม 9 องค์แล้วเสร็จ และได้ติดตั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรมของฐานชาลาทั้งสามชั้นแล้วเสร็จ 100% ได้แก่ ฐานสิงห์ ราชวัติ หน้ากระดาน และฐานเทวดา รวมทั้งได้ติดตั้งองค์ประกอบส่วนบน ได้แก่ การหุ้มเสา ผนัง เพดาน และประกอบชั้นเชิงกลอน ส่วนงานขยายแบบเท่าจริงที่แล้วเสร็จ ได้แก่ บุษบกหอเปลื้องทั้งหมด ส่วนฐานและเรือนธาตุของบุษบกซ่าง
ส่วนพระที่นั่งทรงธรรม คืบหน้ารวมประมาณ 54.3% ศาลาลูกขุนทั้ง 4 คืบหน้า 60% ทับเกษตร ทิม คืบหน้า 53% พลับพลายกสนามหลวง คืบหน้า 30% พลับพลาหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ปราสาท และพลับพลายกหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเกยลา คืบหน้า 55% สำหรับงานจัดสร้างพระโกศพระบรมอัฐิ 4 แบบ รวม 6 องค์ ได้จัดทำหุ่นต้นแบบแล้วเสร็จ 70% และขึ้นหุ่นพระโกศโลหะ กลึงถ้ำศิลา แล้วเสร็จ 10% อย่างไรก็ตาม ต้นเดือน ก.ค. ตนจะเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตรวจความคืบหน้าพระเมรุมาศ และตนจะเดินทางไปสำนักช่างสิบหมู่ เพื่อตรวจความคืบหน้าด้านงานศิลปกรรมและประณีตศิลป์ ในสัปดาห์หน้า
“การจัดสร้างพระเมรุมาศภาพรวมเป็นที่น่าพอใจ ฝนไม่เป็นอุปสรรค ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานอย่างเต็มที่ทุกวัน แต่ยังคงดูแลระบบความปลอดภัยให้เป็นเลิศ อย่างไรก็ตาม ในสิ้นเดือนกันยายนพระเมรุมาศจะแล้วเสร็จแน่นอน สมพระเกียรติ ซึ่งเป็นผลงานของคนทั้งประเทศ โดยมีรัฐบาลประสาน และกระทรวงวัฒนธรรมกำกับดูแล อย่างไรก็ตาม หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี รัฐบาลจะจัดนิทรรศการให้ประชาชนได้เข้าชมเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุมาศ และโครงการพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตลอดจนจิตรกรรมฝาผนังพระที่นั่งทรงธรรม จิตรกรรมฉากบังเพลิง ซึ่งรวมโครงการพระราชดำริไว้ โดยนิทรรศการจะจัดแสดงเป็นเวลา 30 วัน” พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว
ด้าน พ.อ.ณัฐกฤต สันป่าแก้ว ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการพิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าการก่อสร้างถนนเส้นกลางบริเวณท้องสนามหลวง เพื่อใช้เป็นเส้นทางอัญเชิญพระบรมศพในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ว่า หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา มอบหมายให้หน่วยพัฒนาการพิเศษ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ โดยจะมีการก่อสร้างถนนคอนกรีต เสริมเหล็กกว้าง 30 เมตร ยาว 200 เมตร หนา 15 ซม. รองรับน้ำหนักบรรทุกไม่น้อยกว่า 14 ตัน คิดจากน้ำหนักรวมการบรรทุกสูงสุดของพระมหาพิชัยราชรถ โดยจะทำการรื้อผิวถนนการจราจรเดิมก่อน แล้วจึงการก่อสร้างชั้นพื้นทาง ลงหินคลุกหนา 20 ซม. และทำผิวจราจรคอนกรีตหนา 15 ซม. ก่อนทำการตกแต่งสีผิวคอนกรีต และจัดสร้างขอบคันทางคอนกรีต โดยขณะนี้ได้มีการขุดรื้อผิวลาดยางแอสฟัลท์เดิมได้พื้นที่ 950 ตร.ม. จากพื้นที่ 6,070 ตร.ม. และรื้อถอนหินคลุกเดิม ได้จำนวน 275 ลบ.ม. จาก 3,700 ลบ.ม.
ส่วนความคืบหน้าพระโกศจันทน์ และฐานรองพระโกศจันทน์ นายพิจิตร นิ่มงาม นายช่างศิลปกรรม อาวุโส สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า การจัดทำฐานรองพระโกศจันทน์ (พระหีบจันทน์) คืบหน้าแล้ว 95% โดยมีการประกอบลายหลักๆ ทั้งหมดแล้ว ยังเหลือลายเฟื่องอุบะและดอกไม้ไหวบริเวณมุม รวมทั้งได้ทดลองเทินโครงสร้างตาข่ายพระโกศจันทน์ ขึ้นบนฐานรองแล้วเพื่อดูรายละเอียดภาพรวมทั้งหมดก่อนประดับลวดลาย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินฉลุลวดลายของพระโกศจันทน์ที่มีมากกว่า 10 ลวดลาย คืบหน้าแล้ว 60% เช่น ลายเทพพนม เป็นต้น การดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ จะแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม หลังจากวันที่ 26 มิ.ย.จะมีการรื้อถอนอาคารพระโกศจันทน์ โดยจะย้ายไปดำเนินการบริเวณข้างโรงประติมากรรมในกรมศิลปากร ซึ่งจะมีจิตอาสาช่วยทำการขนย้าย หลังจากนี้จะคัดเลือกจิตอาสามาช่วยปฏิบัติงานเพื่อให้เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
นายเจริญ มาบุตร จิตรกรชำนาญการ กล่าวว่า การลงสีครุฑยืน 3 องค์ คืบหน้า 60% ขณะนี้ดำเนินการเก็บรายละเอียดและตกแต่งเครื่องประดับ สีกายครุฑทุกองค์เป็นสีแดง โดยเดินเส้นทองขีดทีละเส้นให้เป็นขนของปีกและหาง ส่วนผิวกายมีการเพิ่มน้ำหนักให้ดูสว่างมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนลวดลายผ้าแต่ละองค์แตกต่างกันตามจิตรกรสร้างสรรค์ เช่น ลายครุฑก้านแยก ลายพฤกษา ขณะที่ปีกครุฑมีทั้งสีเข้มและอ่อน นอกจากครุฑยืน ยังมีครุฑกางปีก ซึ่งกำลังจัดทำต้นแบบ โดยประติมากรรมครุฑประดับพระเมรุมาศมีทั้งสิ้น 6 องค์
ด้าน น.ส.อาภรณ์ สิงหเรือง จิตอาสาลงสีท้าวเวสสุวรรณ 1 ในท้าวจตุโลกบาลประดับทิศเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้ลงสีพื้นท้าวเวสสุวรรณด้วยสีเหลือง ก่อนจะทาสีทองทับ โดยใช้สีน้ำมัน ส่วนเครื่องประดับจะใช้ลงสีทองเหมือนกัน แต่เป็นสีอะคริลิกให้ดูทองสุกปลั่ง เครื่องทรงและอัญมณีประดับเจือด้วยสีทอง เงิน นาค และสีเขียวปลีกแมลงทับ โดยรวมคืบหน้า 20%
นายเกรียงกมล นาคบางแก้ว นายช่างศิลปกรรมกลุ่มศิลปะประยุกต์ และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า ความคืบหน้าประติมากรรม ท้าวธตรฐ ทรงพิณสามสายประจำทิศตะวันออก ขณะนี้อยู่ระหว่างลงสี ซึ่งใช้สีน้ำมันเป็นหลักประกอบกับสีอะคริลิกเน้นโทนอ่อนหวาน อาทิ ชมพู ฟ้า เขียว และทอง โดยได้เก็บรายละเอียดตั้งแต่ยอดชฎาลงมาถึงช่วงล่าง โดยลวดลายผ้าจะเน้นลายดอกไม้ ลายก้านแย่ง และแทรกสีลงไปที่ลวดลาย ต้องมีการคุมโทนสีให้เข้ากับตัวองค์ หลังลงสีทั้งองค์แล้วจะนำส่วนประกอบเครื่องดนตรีพิณ ที่ลงสีไม้และสีทองมาประดับ คาด 1 เดือนจะแล้วเสร็จ
ขณะที่ นายณธน โพธิ์เถื่อน จิตรกรสำนักช่างสิบหมู่ กล่าวว่า การลงสีราชสีห์ประดับชั้นที่ 2 คืบหน้ากว่า 90% มีผิวกายสีขาวอมชมพู เหลือเก็บรายละเอียดพื้นเท่านั้น คาดว่า จะเสร็จในวันศุกร์นี้ส่วนคชสีห์ที่ประดับคู่กัน กำลังปั้นต้นแบบ โดยกำหนดลงสีม่วงบัวโรย หรือม่วงผสมน้ำตาลอ่อน สำหรับประติมากรรมต่อไปที่ตนเตรียมลงสีคือ ช้างประจำทิศจะใช้โทนสีอ่อนดูนุ่มนวล คาดว่า จะเริ่มลงสีภายในสัปดาห์นี้