xs
xsm
sm
md
lg

โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง!! ไทยไม่มีไข้เลือดออก “สายพันธุ์ใหม่”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมควบคุมโรค ยันอีกรอบ “ไทย” ไม่มีไข้เลือดออก “สายพันธุ์ใหม่” ย้ำ มีเพียง 4 สายพันธุ์เดิมที่เคยพบมาแล้ว เผย ช่วงหน้าฝนมีโอกาสระบาดสูง ขอประชาชนใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

วันนี้ (13 มิ.ย.) นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีมีการรายงานข่าวเด็กจังหวัดตรัง เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ เป็นสายพันธุ์เดียวกับ ปอ ทฤษฎี ว่า จากการตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอผลตรวจยืนยัน อย่างไรก็ตาม กรมฯ ขอยืนยันว่า ปัจจุบันประเทศไทยไม่มีไข้เลือดออกสายพันธุ์ใหม่ นอกเหนือจาก 4 สายพันธุ์ที่เคยพบมาแล้ว ซึ่งในแถบประเทศอาเซียนนี้พบได้ 4 สายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความรุนแรงไม่แตกต่างกันมาก ส่วนอาการป่วยขึ้นอยู่กับว่าเคยติดเชื้อมาก่อนหรือไม่ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อครั้งแรกอาการมักไม่รุนแรง อาจมีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเท่านั้น แต่อาการจะรุนแรงขึ้นเมื่อติดเชื้อครั้งที่สองด้วยสายพันธุ์ที่ต่างไป ซึ่งจะทำให้มีภาวะเลือดออกและช็อกได้

อย่างไรก็ตาม โรคไข้เลือดออกถือเป็นโรคประจำถิ่นในประเทศแถบอาเซียน ซึ่งพบการระบาดในหลายประเทศ สำหรับในประเทศไทยเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยทั่วประเทศ 63,931 ราย เสียชีวิต 64 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15 - 24 ปี รองลงมา 10 - 14 ปี และ 25 - 34 ปี ตามลำดับ ส่วนในปี 2560 ในช่วงครึ่งปีแรก (ตั้งแต่เดือน ม.ค.- พ.ค. 2560) พบผู้ป่วย 11,062 ราย เสียชีวิต 21 ราย ซึ่งธรรมชาติของโรคไข้เลือดออกจะพบการระบาดแบบปีเว้นปี หรือปีเว้นสองปี

นพ.เจษฎา กล่าวอีกว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ซึ่งเป็นช่วงระบาดของโรคไข้เลือดออก จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมใน 3 เรื่องสำคัญ คือ 1. การป้องกันการถูกยุงกัด โดยทายากันยุง นอนในมุ้ง กำจัดยุงตัวเต็มวัยด้วยสเปรย์ ไม้ช็อตไฟฟ้า พร้อมกำจัดลูกน้ำและแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในภาชนะน้ำใส นิ่ง 2. การเฝ้าระวังอาการของโรค ไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย เบื่ออาหาร หน้าแดง ผิวหนังเป็นจุดเลือด อาเจียน ปวดท้อง และ 3. การไปพบแพทย์เร็วเมื่อป่วยและมีไข้สูง เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยโรค และเฝ้าระวังเป็นพิเศษในช่วงไข้ลดหากเกิดอาการช็อกจากไข้เลือดออก ต้องรีบกลับไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด หากช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้

ทั้งนี้ ขอแนะนำให้ประชาชนใช้มาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค” คือ 1. เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้มีมุมอับทึบ เป็นที่เกาะพักของยุง 2. เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3. เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่ เพื่อป้องกัน 3 โรค คือ โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422
กำลังโหลดความคิดเห็น