xs
xsm
sm
md
lg

แทบขมคอ!! “ช่วงฝนตก” เจอวิกฤต “โรคเท้าเหม็น” ทำไงดี??

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มากันให้เต็มที่!! สารพันปัญหาโรคยิบย่อยสุดกวนใจ “ช่วงหน้าฝน” ทั้งน้ำกัดเท้า - เท้าเหม็น - ผื่นภูมิแพ้ - กลาก เหตุสกปรกและอับชื้น แนะดูแลรักษาความสะอาดร่างกาย เลือกเสื้อผ้าดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังตามท้องถนน และในสถานที่ต่างๆ ทำให้เชื้อโรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้ง่าย หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ถูกวิธีจะทำให้เกิดโรคผิวหนังจากเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา รวมถึงผิวหนังอักเสบได้ โดยโรคผิวหนังที่พบบ่อยในฤดูฝน ได้แก่ โรคน้ำกัดเท้า เกิดจากการแช่น้ำ หรือเดินย่ำน้ำนานเกินไป จนเป็นเหตุให้ผิวหนังเปื่อย ยุ่ย และเกิดอาการระคายเคือง ผื่นภูมิแพ้ จากการอาบน้ำอุ่นจัด หรือร้อนเกินไป จะทำให้ผิวแห้ง เกิดอาการคันและผิวหนังอักเสบได้ง่าย หลังจากอาบน้ำควรใช้ครีมบำรุงผิวเป็นประจำ สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายมีเหงื่อมาก หรือตากฝน หรือสวมเสื้อผ้าทีไม่แห้งสะอาด อาจเป็นโรคกลาก ทีมีอาการผื่นแดงตามซอกพับ เช่น ขาหนีบ รักแร้ ซอกนิ้วเท้า มีอาการคันมาก

“การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมในช่วงฤดูฝนถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย แห้งง่าย ไม่ควรใส่ผ้าเนื้อหนาและรัดรูปจนเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณผิวหนัง นอกจากนี้ การที่เหงื่อออกมาก อับชื้นเชื้อรา และแบคทีเรียจะเจริญเติบโตได้ดี ส่งผลให้เกิดอาการแพ้เสื้อผ้ามีผื่นคันตามจุดต่างๆ เช่น ผู้ที่ชอบสวมเสื้อแขนรัดมักพบผื่นบริเวณรักแร้ ส่วนผู้ที่ชอบสวมกางเกงยีนส์รัดรูป มักพบผื่นบริเวณขาหนีบ เป็นต้น นอกจากการติดเชื้อที่ผิวหนังแล้ว ยังส่งผลให้เกิดกลิ่นอับ กลิ่นตัว เพราะเหงื่อระเหยได้ยากยิ่งขึ้น” อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าว

พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า อีกโรคที่มักมาพร้อมกับหน้าฝน คือ โรคเท้าเหม็น ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยทั่วไปไม่ค่อยคัน จะมีผิวหนังล่อนลอกเป็นรูๆ หรือหลุม เริ่มจากตรงฝ่าเท้าก่อน ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรียปล่อนเอนไซม์ที่ย่อยสลายผิวหนังของเรา พร้อมกับมีกลิ่นที่เหม็นมาก ซึ่งจัดว่าเหม็นกว่ากลิ่นเท้าอับชื้นธรรมดา และต่างจากฮ่องกงฟุตที่เกิดจากเชื้อรา และอาการจะเริ่มจากระหว่างซอกนิ้วสองข้างก่อน ทั้งนี้ โรคเท้าเหม็นไม่ถือว่าอันตราย แต่สร้างความรำคาญทั้งต่อตัวเองและคนอื่น สาเหตุเนื่องจากการลุยน้ำต่างๆ โดยไม่ได้ทำความสะอาดให้แห้งพอ ทำให้เชื้อแบคทีเรียโตได้ แต่ไม่ใช่ว่าการไปลุยน้ำครั้งเดียวแล้วจะติดเชื้อแบคทีเรียเลย เพราะมักจะเป็นการระคายเคือง แต่การจะติดเชื้อรา หรือแบคทีเรียมักเกิดขึ้นจากการโดนบ่อยๆ ซ้ำๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันตรงนั้นมีปัญหา ผิวเปื่อยยุ่ย เชื้อลุกลามหรือเจริญเติบโต ดังนั้น การลุยน้ำใหม่อาจต้องรักษาเรื่องของการระคายเคืองก่อน โดยอาจล้างน้ำสบู่ธรรมดาแล้วเช็ดให้แห้ง แต่หากเป็นถึงขั้นโรคเท้าเหม็น ก็รักษาได้ด้วยยาทา

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า เสื้อผ้าที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยควรเป็นผ้าผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ เพราะสวมใส่สบาย แห้งง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ส่วนเนื้อผ้าที่ต้องระวัง คือ ผ้าประเภทขนสัตว์ ผ้าไนลอน เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง และมักเป็นสาเหตุทำให้เกิดผดผื่นคัน เพราะเนื้อผ้าระบายอากาศไม่ดี จึงทำให้เกิดความอับชื้นจากเหงื่อและอาจเป็นที่มาของเชื้อโรคได้ ดังนั้น ควรซักเสื้อผ้าให้สะอาดและตากแดดให้แห้งสนิท โดยเฉพาะเสื้อผ้าประเภทที่มีเนื้อผ้าหนาควรตากแดดให้แห้งสนิทจริงๆ เพราะเนื้อผ้าประเภทนี้มักแห้งช้ากว่าผ้าปกติ

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากควรลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะคนอ้วนเสื้อผ้ามักจะเสียดสีกับผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคืองและอับชื้นได้ง่าย ส่วนเวลานอนควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดชั้นในเวลานอน เพื่อให้จุดอับชื้นต่างๆ ในร่างกายมีการระบายได้ดี ทั้งนี้ ควรดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรง ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นทานผักและผลไม้ที่มีวิตามิน C, E และเบต้าแคโรทีน เช่น ข้าวโพด แครอท ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ ดื่มน้ำสะอาด และพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบความผิดปกติบริเวณผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรง เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
กำลังโหลดความคิดเห็น