กรมศิลป์จัดมหรสพงานพระเมรุมาศในหลวง รัชกาลที่ 9 แสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรมชุดยกรบ ยึดตามโบราณราชประเพณียิ่งใหญ่ รวมศิลปินกว่า 3,000 คน
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่โรงละครแห่งชาติ นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม(วธ.)พร้อมด้วย นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร แถลงข่าวการแสดงมหรสพในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยนายวีระ กล่าวว่า วธ.โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจัดการแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพตามแบบแผนโบราณราชประเพณี โดยใช้ผู้แสดงจากนาฏศิลปิน สำนักการสังคีต นักเรียน นักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป 12 แห่งทั่วประเทศ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ และศิลปินจากที่ต่างๆ รวมทั้งสิ้น 3,084 คน
"ในหลวง ร. 9 ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน ซึ่งมีศิลปินหลากหลายสาขาต้องการมีส่วนร่วมเพื่อแสดงความจงรักภักดี โดยในเวทีการแสดงละครยังได้เปิดโอกาสให้ศิลปินพื้นบ้านร่วมถวายความจงรักภักดีครั้งนี้ด้วย ขณะนี้ได้เริ่มการแสดงแล้วเพื่อจัดการแสดงที่สมพระเกียรติ ซึ่งจะมีการซ้อมใหญ่วันที่ 16-20 ตุลาคมนี้ ที่วิทยาลัยนาฎศิลป ศาลายา จ.นครปฐม ทั้งนี้ วธ.จะนำเรื่องการแสดงมหรสพทั้งหมดรายงานต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ จากนั้นนายกรัฐมนตรี จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลต่อไป"นายวีระ กล่าว
นายอนันต์ กล่าวว่า สำหรับการแสดงมหรสพในพระราชพิธีครั้งนี้ ประกอบด้วย การโขนหน้าพระเมรุมาศ หน้าพระที่นั่งทรงธรรม เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร -ยกรบ รำลึกพระมหากรุณาธิคุณ โดยมีผู้แสดง ผู้พากย์ - เจรจา ผู้บรรเลง ขับร้อง และผู้เกี่ยวข้องจำนวน 300 คน โดยเหตุที่เลือกโขนหน้าไฟเรื่องรามเกียรติ์ ชุด ยกรบ เป็นการแสดงโขนที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมศิลปากรจัดการแสดงต้อนรับพระราชอาคันตุกะอยู่เสมอ นอกจากนี้ทรงมีพระราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการแสดงโขนเพื่อปรับปรุงให้จัดการแสดงอย่างพร้อมเพรียงและสวยงาม การแสดงโขนหน้าพระเมรุมาศครั้งนี้จึงเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
สำหรับแสดงมหรสพในเวทีกลางแจ้ง บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือ มี 3 เวที ประกอบด้วย 1.เวทีการแสดงหนังใหญ่เบิกหน้าพระ และการแสดงโขนรามเกียรติ์ แบ่งเป็น 3 ส่วน คือ การแสดงหนังใหญ่ ชุดจับลิงหัวค่ำ ส่วนที่ 2 การแสดงโขนหน้าจอ และโขนชักรอก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดพระรามข้ามสมุทร ชุดศึกทศกัณฐ์ครั้งแรก ทัพสิบขุนสิบรถ ชุดท้าวมาลีวราชว่าความ ชุดนางมณโฑหุงน้ำทิพย์ ชุดศึกทศกัณฐ์ขาดเศียรขาดกร และชุดสีดาลุยไฟ พระรามคืนนคร ส่วนที่ 3 การแสดงโขนหน้าจอ และโขนชักรอก เรื่องรามเกียรติ์ ชุดรามาวตาร ทศกัณฐ์รบสดายุ หนุมานถวายพล พิเภกสวามิภักดิ์ เป็นการแสดงของโขนพระราชทานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ โดยใช้ผู้แสดงจำนวน 1,420 คน
ส่วนเวทีที่ 2 เวทีการแสดง ประกอบด้วย การแสดงละครเรื่องพระมหาชนก การแสดงหุ่นหลวง ตอนหนุมานเข้าห้องนางวานรินทร์ การแสดงหุ่นกระบอก เรื่องพระอภัยมณี ตอนกำเนิดสุดสาครจนถึงเข้าเมืองการะเวก รำกิ่งไม้เงินทอง ละครใน เรื่องอิเหนา ตอนบุษบาชมศาล- อิเหนาตัดดอกไม้ - ฉายกริช - ท้าวดาหาบวงสรวง และละคร เรื่องมโนห์รา ใช้ผู้แสดง 422 คน สำหรับเวที3 การบรรเลงดนตรีสากล “ธ คือ ดวงใจไทยทั่วหล้า” เป็นการบรรเลงและขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพลงเทิดพระเกียรติ บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นเพื่อแสดงความอาลัย โดยมีวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ วงสหายพัฒนา โรงเรียนราชินี วงดนตรี 4เหล่าทัพ วงดนตรีสถาบันกัลยาณิวัฒนา กองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมด้วย รวมผู้แสดงทั้งหมด 942 คน อย่างไรก็ตาม ทั้ง 3 เวทีจะเริ่มแสดงตั้งแต่ 18.00 น.ของวันที่ 26 ต.ค.จนถึง06.00 น.ของวันที่ 27 ต.ค.2560 ซึ่งการแสดงทุกเวทีจะหยุดการแสดงเมื่อมีพระราชพิธีบนพระเมรุมาศ