“น้องนุ๊ก” พร้อมทนายสงกานต์ เข้าหารือ สธ. เยียวยาตรวจเชื้อเอชไอวีพลาดเมื่อ 17 ปีก่อน รมว.สธ. ขอ “หมอประพันธ์” ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์เป็นกรรมการสอบมาตรฐานการตรวจเชื้อ
ความคืบหน้ากรณี น.ส.สุทธิดา แสงสุมาตร หรือ น้องนุ๊ก อายุ 23 ปี เรียกร้องขอความเป็นธรรมกรณีโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตรวจเชื้อเอชไอวีผิดพลาด โดยผลตรวจล่าสุดจากศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ยืนยันชัดแล้วว่า ไม่ติดเชื้อ โดยจะมีการหารือร่วมดับ สธ. ในวันที่ 5 มิ.ย.
วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 12.00 น. น.ส. สุทธิดา แสงสุมาตร ผู้เสียหายจากการตรวจเชื้อเอชไอวีคลาดเคลื่อน พร้อมด้วย นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ ได้เดินทางเข้าหารือกับ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โสภณ เมฆธน ปลัด สธ. และ ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภาณุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย เพื่อหาแนวทางการเยียวยา น.ส.สุทธิดา ในฐานะผู้เสียหายจากการตรวจเชื้อเอชไอวีคลาดเคลื่อน ทำให้ถูกสังคมตีตรา และเสียโอกาสต่างๆ โดย น.ส.สุทธิดา ได้อุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ มาร่วมรับฟังการหารือครั้งนี้ด้วยสีหน้าแจ่มใส
นายสงกานต์ กล่าวว่า หลังจาก 17 ปีผ่านไป น.ส.สุทธิดา ได้รับการตรวจยืนยันว่าไม่มีเชื้อเอชไอวีแน่นอนเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ต้องการจะเรียกร้องจาก สธ. คือ 1. ต้องการให้มีการตรวจสอบเรื่องราวเมื่อ 17 ปีก่อนถึงข้อเท็จจริงสิ่งที่เกิดขึ้น 2. ขอให้ สธ. พิจารณาเยียวยา น.ส.สุทธิดา ตามสมควร โดยเราไม่ได้เรียกร้องอะไร แล้วแต่ สธ. จะพิจารณา ที่สำคัญ อยากขอให้สังคมรับรู้ว่าไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงน่ารังเกียจ ขอให้อย่าตีตราผู้ติดเชื้อ นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลที่เป็นต้นเรื่องควรออกมาตั้งโต๊ะแถลงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยว่าเป็นไปได้อย่างไร
นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ขณะนี้ผลตรวจออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่า น.ส.สุทธิดา ไม่ได้ติดเชื้อเอชไอวี ก็ต้องของแสดงความยินดีด้วย และขอให้สังคมเอาเป็นตัวอย่างว่าไม่ควรจะตีตรา หรือแสดงความรังเกียจผู้ที่ติดเชื้อ ต่อไปก็จะต้องมีตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องที่ผ่านมาเมื่อ 17 ปีที่แล้วว่าได้มาตรฐานของเมื่อ 17 ปีที่แล้วหรือไม่ และมีการดูแลผู้ป่วยได้มาตรฐานหรือไม่ โดยขอให้ ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ เป็นคณะกรรมการการตรวจสอบ คาดว่า จะเสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน ส่วนในเรื่องของการเยียวยานั้นให้ปลัด สธ. พิจารณาตามความเหมาะสม แต่ขณะนี้ขอให้มั่นใจได้ว่าการตรวจเชื้อเอชไอวีมีมาตรฐานแน่นอนไม่ต้องกังวล
ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ กล่าวว่า ต้องย้อนไปตรวจสอบว่าทางโรงพยาบาลได้มีการตรวจอย่างได้มาตรฐานของตอนนั้นหรือไม่ ซึ่งเมื่อ 17 ปีก่อน หลังจากมีการตรวจ 1 ครั้ง ว่า อาจจะติดเชื้อแล้ว ต้องมีการตรวจซ้ำอีก 1 ครั้งเพื่อยืนยันด้วย แต่ขณะนี้ข้อมูลที่ส่งมายังไม่พบว่า มีการตรวจซ้ำอีกครั้งหรือไม่ มาตรฐานของเมื่อ 17 ปีก่อนนั้น คือ วิธีการตรวจต้องได้ผลที่แม่นยำ ร้อยละ 98 แปลว่า อาจจะมีร้อยละ 2 ที่ผิดพลาดเป็นเลือดบวกปลอมได้ ส่วนในปัจจุบันนี้จะมีการตรวจซ้ำทั้งหมด 3 ครั้ง ว่า ติดเชื้อจริงหรือไม่ นอกจากนี้ยังอาจจะขอให้ น.ส.สุทธิดาเป็นพรีเซนเตอร์เกี่ยวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีด้วย
น.ส.สุทธิดา กล่าวว่า ตนดีใจมากวันนี้ รู้สึกโล่งอกหลังจากต้องทนแบกรับมาเป็น 10 ปี เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพื่อนๆ ที่ทราบข่าวก็มีโทรมาแสดงความยินดีบ้าง ไม่ได้หวังเรียกร้องการเยียวยาอะไรแล้วแต่ทางกระทรวงจะพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องที่จะให้เป็นพรีเซนเตอร์ให้ผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีนั้นตนก็ยินดี
