กรมการจัดหางาน เผย ค่าจ้างรายอาชีพปี 2559 พบค่าจ้างต่อเดือนสูงสุด 45,000 บาท อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมและภาคบริการ ต่ำสุด 7,800 บาท เฉลี่ย 9,801 บาท ด้าน “วิศวกรเหมืองแร่ - เจาะบ่อน้ำมัน” อาชีพมีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุด 40,000 บาท
นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กองบริหารข้อมูลตลาดแรงงาน กกจ. ได้รวบรวมข้อมูลตำแหน่งงานว่างจากการให้บริการจัดหางานในประเทศมาทำการวิเคราะห์ และจัดทำค่าจ้างรายอาชีพปี 2559 ซึ่งจากการวิเคราะห์พบว่า คนไทยได้รับค่าจ้างต่อเดือนสูงสุด 45,000 บาท ต่ำสุด 7,800 บาท และค่าจ้างเฉลี่ย 9,801 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 พบว่า ค่าจ้างต่อเดือนสูงสุดเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.42 จากปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 38,000 บาท ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.73 จากปี 2558 ซึ่งอยู่ที่ 9,730 บาท
นายวรานนท์ กล่าวว่า ค่าจ้างต่อเดือนสูงสุดอยู่ในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ 45,000 บาท รองลงมาคือ ภาคเกษตรกรรม 40,000 บาท อยู่ในพื้นที่ กทม. ปริมณฑลและภาคกลางมากสุด ขณะที่ค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุดอยู่ในหมวดอาชีพผู้บัญญัติกฎหมาย ข้าราชการอาวุโส ผู้จัดการ 14,841 บาท รองลงมาผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ 12,758 บาท ช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง 10,749 บาท เสมียน เจ้าหน้าที่ 10,072 บาท ตามลำดับ สำหรับอาชีพที่มีค่าจ้างเฉลี่ยต่อเดือนมากที่สุด คือ วิศวกรเหมืองแร่ทั่วไปและผู้ติดตั้งเครื่องเจาะ (การเจาะบ่อน้ำมัน) 40,000 บาท ช่างทอพรมด้วยเครื่องจักร 26,000 บาท นักอินทรีย์เคมีและผู้ประมาณการ (งานวิศวกรรม) 25,000 บาท ต้นเรือ 22,000 บาท และนักเภสัชวิทยา 21,900 บาท ตามลำดับ
“จากการวิเคราะห์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานมีความต้องการแรงงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ทั้งยังมีรายได้สูงอีกด้วย ดังนั้น จึงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเรียน นักศึกษา ในการตัดสินใจเลือกเรียนให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน และได้รับอัตราค่าจ้างที่สูง โดยเฉพาะสายอาชีพจะมีโอกาสที่หลากหลายในการทำงาน โดยผู้เรียนสามารถเลือกออกไปทำงานหรือเรียนไปทำงานไปด้วยก็ได้ กล่าวคือ เป็นการเรียนที่นำไปใช้ในชีวิตจริงได้เลย เพราะจะได้ทั้งความชำนาญในงานและประสบการณ์จากการทำงานควบคู่กันไป อย่างไรก็ตาม นอกจากเลือกเรียนตรงกับตลาดต้องการแล้วยังต้องพัฒนาทักษะของตนเองด้วย เช่น ภาษาต่างประเทศ การใช้เทคโนโลยี เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำให้กับตนเองต่อไป” นายวรานนท์ กล่าว