โซเชียลกังขา เภสัชฯ จัดยารักษาหอบหืด “ทีโอฟิลลีน” ให้คนป่วยหวัด ทำอาการใจสั่น เข้าห้องฉุกเฉินหลายราย อย. เคลียร์ข้อสงสัยจ่ายยาได้ หากคนไข้เป็นหวัด หายใจไม่สะดวก แต่ต้องแนะนำปริมาณการกิน ชี้ คนไข้บางรายตอบสนองยามากกว่าคนอื่น ส่งผลต่อหัวใจได้ หากมีอาการให้หยุดยาทันที
จากกรณีมีผู้โพสต์ข้อความบนโซเซียลมีเดีย ว่า ช่วงนี้เจอคนไข้กินยาทีโอฟิลลีน (Theophylline) แล้วใจสั่นเข้า ER เยอะมาก เกือบทั้งหมดซื้อยาจากร้านขายยา บอกเป็นหวัด เภสัชกรก็จัดยาให้ ทำไมกล้าจัด ซึ่งยาทีโอฟิลลีนปกติแล้วเป็นยารักษาอาการหอบหืดไม่ใช่ยารักษาอาหารหวัด
วันนี้ (18 ต.ค.) ภก.ประพนธ์ อางตระกูล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ตามปกติแล้วยามี 3 ประเภท คือ 1. ยาสามัญประจำบ้าน ไม่มีอันตรายสามารถวางขายทั่วไปตามร้านสะดวกซื้อได้โดยที่ไม่ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ หรือเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยา เช่น ยาพาราเซตามอล 2. ยาบรรจุเสร็จ คือ ยาบรรจุเป็นแผงเสร็จ แต่ต้องมีเภสัชกรแนะนำในการกินยา และ 3. ยาอันตราย คือ ยาที่ขายในร้านที่มีใบอนุญาตให้ขายยาถูกกฎหมาย เป็นยาที่จำเป็นต้องมีเภสัชกรแนะนำการใช้ ซึ่งตัวยาทีโอฟิลลีนจัดอยู่ในประเภทนี้
ภก.ประพนธ์ กล่าวว่า ยาทีโอฟิลลีนเป็นยารักษาอาการหอบหืด จะช่วยขยายหลอดลม ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น ดังนั้น คนไข้บางรายที่เป็นหวัดมีอาการหายใจไม่สะดวก เภสัชกรก็สามารถจัดยาตัวนี้ให้ได้ โดยจะมีฉลากแนะนำว่าควรกินวันละกี่เม็ดเพื่อรักษาอาการ เช่น คนไข้หอบหืดเภสัชกรอาจจะแนะนำให้กิน 200 มิลลิกรัมก่อนนอนเท่านั้น ซึ่งในคนไข้บางรายอาจจะมีการตอบสนองตัวยามากกว่าคนอื่นทำให้มีผลต่อการเต้นของหัวใจ ใจสั่น เป็นตะคริว ชัก คลื่นไส้อาเจียนได้
“หากใครกินแล้วมีอาการดังกล่าวแนะนำให้หยุดยาทันที แล้วไปพบแพทย์ด่วนเพื่อรักษาอาการ ซึ่งอันที่จริงแล้วอยากจะแนะนำว่าคนไข้ที่เป็นหวัดนั้นสามารถดูแลตัวเองโดยไม่ต้องซื้อยามากินก็ได้ โดยให้ทำร่างกายให้อบอุ่นอยู่ตลอดเวลา ดื่มน้ำอุ่น อาการก็จะทุเลาลงได้ไม่ต้องพึ่งยา” รองเลขาธิการ อย. กล่าว