ผู้เขียนเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านล้วนมีความปรารถนาและมีความคาดหวังว่าลูกของเราจะต้องเป็นคนเก่ง หรือเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างแน่นอน วันนี้ผู้เขียนขอนำเสนอวิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นเด็กฉลาดด้วยวิธีการที่เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านสามารถนำมาปฏิบัติได้ไม่ยาก ดังนี้
1. ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ อันได้แก่ นม ไข่ และเนื้อสัตว์ ซึ่งมีสารโปรตีนช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง ข้าว แป้ง ซึ่งมีสารคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงานต่อร่างกาย พืชผักผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งให้สารวิตามินและแร่ธาตุเพื่อเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำมันและไขมันจากสัตว์และพืชที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ดูแลเอาใจใส่ให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ดังที่กล่าวไปนั้น ลูกก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งส่งผลให้เขามีความพร้อมทางด้านสติปัญญาในการพัฒนาศักยภาพของการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
2. ให้ลูกดูโทรทัศน์น้อยที่สุด มีงานวิจัยที่กล่าวตรงกันว่าการให้เด็กดูโทรทัศน์ไม่ได้ช่วยพัฒนาสมองเด็ก อีกทั้งทำให้เด็กบางรายเป็นโรคสมาธิสั้น เพราะดูโทรทัศน์มากเกินไปที่เป็นเช่นนี้ เพราะการดูโทรทัศน์ เป็นการรับรู้เพียงสองมิติ คือ การเห็นภาพและการได้ยินเสียงแต่โทรทัศน์ไม่สามารถโต้ตอบกับเด็กได้ซึ่งขัดกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเป็นอย่างมาก
3. ให้ลูกทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทางด้านสติปัญญา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะช่วยพัฒนาความฉลาดของลูกโดยตรงแล้วยังเป็นกิจกรรมคุณภาพของครอบครัวอีกด้วย ได้แก่
- เล่นกีฬา คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬาเพราะกิจกรรมกีฬาไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาความแข็งแรงของด้านร่างกายเท่านั้นแต่ยังช่วยพัฒนาสมองของเด็กอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ฟุตบอล ปิงปอง แบดมินตัน เพราะการเล่นกีฬาจะช่วยฝึกการสังเกต การคิดคาดคะเน การคิดอย่างมีระบบ
- เข้าครัว การที่คุณพ่อคุณแม่ชวนลูก ๆ ทำอาหารเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการทำอาหารจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมทักษะในการพึ่งพาตนเองให้กับเด็กแล้วการทำอาหารยังช่วยพัฒนาสติปัญญาให้กับเด็กในเรื่องของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการชั่ง ตวง วัด และการบวกลบคูณหาร
- ร้องรำทำเพลง มีงานวิจัยมากมายที่กล่าวว่ากิจกรรมดนตรีช่วยพัฒนาความฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก เพราะการที่เด็กได้คิดสร้างสรรค์ท่าทางตามจังหวะ และดนตรีจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาซึ่งเกี่ยวข้องในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การที่เด็กได้ร้องเพลงเล่นเครื่องดนตรีและอ่านโน้ตดนตรีจะช่วยพัฒนาสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์ และการคิดวิเคราะห์
- ทำงานศิลปะ กิจกรรมศิลปะเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมองทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ระบายสี ตัด แปะ ปั้น ที่นอกจากจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วมือแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิให้กับเด็กเป็นอย่างดีอีกด้วย
4. ให้ความรัก การที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรักตั้งแต่เขายังเล็ก จะส่งผลให้เขาเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความฉลาดในเรื่องของการปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี กล้าคิดกล้าทำมีความคิดสร้างสรรและจินตนาการที่ดี มีสมองที่พร้อมเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ผู้อ่านจะเห็นว่าความฉลาดของลูกนั้นเกิดได้ไม่ยากเลยจากสองมือของพ่อแม่ที่ช่วยกันเสริมและสร้างด้วยความรักและการเอาใจใส่ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
1. ให้ลูกรับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่ อันได้แก่ นม ไข่ และเนื้อสัตว์ ซึ่งมีสารโปรตีนช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตแข็งแรง ข้าว แป้ง ซึ่งมีสารคาร์โบไฮเดรต ที่ให้พลังงานต่อร่างกาย พืชผักผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งให้สารวิตามินและแร่ธาตุเพื่อเสริมสร้างการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย น้ำมันและไขมันจากสัตว์และพืชที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย ซึ่งถ้าคุณพ่อคุณแม่ดูแลเอาใจใส่ให้ลูกรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ดังที่กล่าวไปนั้น ลูกก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งส่งผลให้เขามีความพร้อมทางด้านสติปัญญาในการพัฒนาศักยภาพของการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่นั่นเอง
2. ให้ลูกดูโทรทัศน์น้อยที่สุด มีงานวิจัยที่กล่าวตรงกันว่าการให้เด็กดูโทรทัศน์ไม่ได้ช่วยพัฒนาสมองเด็ก อีกทั้งทำให้เด็กบางรายเป็นโรคสมาธิสั้น เพราะดูโทรทัศน์มากเกินไปที่เป็นเช่นนี้ เพราะการดูโทรทัศน์ เป็นการรับรู้เพียงสองมิติ คือ การเห็นภาพและการได้ยินเสียงแต่โทรทัศน์ไม่สามารถโต้ตอบกับเด็กได้ซึ่งขัดกับพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กเป็นอย่างมาก
3. ให้ลูกทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทางด้านสติปัญญา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะช่วยพัฒนาความฉลาดของลูกโดยตรงแล้วยังเป็นกิจกรรมคุณภาพของครอบครัวอีกด้วย ได้แก่
- เล่นกีฬา คุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬาเพราะกิจกรรมกีฬาไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาความแข็งแรงของด้านร่างกายเท่านั้นแต่ยังช่วยพัฒนาสมองของเด็กอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการขี่จักรยาน ว่ายน้ำ ฟุตบอล ปิงปอง แบดมินตัน เพราะการเล่นกีฬาจะช่วยฝึกการสังเกต การคิดคาดคะเน การคิดอย่างมีระบบ
- เข้าครัว การที่คุณพ่อคุณแม่ชวนลูก ๆ ทำอาหารเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากการทำอาหารจะเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมทักษะในการพึ่งพาตนเองให้กับเด็กแล้วการทำอาหารยังช่วยพัฒนาสติปัญญาให้กับเด็กในเรื่องของวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการชั่ง ตวง วัด และการบวกลบคูณหาร
- ร้องรำทำเพลง มีงานวิจัยมากมายที่กล่าวว่ากิจกรรมดนตรีช่วยพัฒนาความฉลาดของเด็กเป็นอย่างมาก เพราะการที่เด็กได้คิดสร้างสรรค์ท่าทางตามจังหวะ และดนตรีจะช่วยพัฒนาสมองซีกขวาซึ่งเกี่ยวข้องในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การที่เด็กได้ร้องเพลงเล่นเครื่องดนตรีและอ่านโน้ตดนตรีจะช่วยพัฒนาสมองซีกซ้ายซึ่งเกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์ และการคิดวิเคราะห์
- ทำงานศิลปะ กิจกรรมศิลปะเป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาสมองทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ระบายสี ตัด แปะ ปั้น ที่นอกจากจะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อนิ้วมือแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิให้กับเด็กเป็นอย่างดีอีกด้วย
4. ให้ความรัก การที่คุณพ่อคุณแม่เลี้ยงดูลูกด้วยความรักตั้งแต่เขายังเล็ก จะส่งผลให้เขาเติบโตขึ้นเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตนเอง มีความมั่นคงทางด้านอารมณ์ ซึ่งจะช่วยพัฒนาความฉลาดในเรื่องของการปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ดี กล้าคิดกล้าทำมีความคิดสร้างสรรและจินตนาการที่ดี มีสมองที่พร้อมเปิดรับการเรียนรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ผู้อ่านจะเห็นว่าความฉลาดของลูกนั้นเกิดได้ไม่ยากเลยจากสองมือของพ่อแม่ที่ช่วยกันเสริมและสร้างด้วยความรักและการเอาใจใส่ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
