เปิดความในใจบุคคลที่มีโอกาสถวายงาน “พระราชินี” ด้าน “วีระ” ชวนชาวไทยร่วมใจถวายพระพร น้อมนำพระราชจริยวัตรอันงดงามของพระองค์เป็นแบบอย่าง
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดงานเปิดตัว 8 บุคคลในภาพตามโครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ของกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ในกิจกรรมตามหาบุคคลในภาพที่ได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทขณะที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจหลากหลาย ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมให้เปิดเผยความรู้สึกและความประทับใจที่ตราตรึงอยู่ในความทรงจำ โดยมี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงานและมอบภาพแห่งความทรงจำให้แก่บุคคล ในภาพที่ 1 คือ นางดอกไม้ คำวงษ์ จ.สกลนคร ปัจจุบันประกอบอาชีพเกษตรกรรม ภาพที่ 2 คือ นางคำใหม่ โยคะสิงห์ จ.กาฬสินธุ์ ปัจจุบันประกอบอาชีพแม่บ้าน ภาพที่ 3 คือ นางจันทร์ฉาย ดวงใจ จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันประกอบอาชีพครูโรงเรียนเทศบาลวัดท่าสะด๋อย จ.เชียงใหม่ ตำแหน่งครูวิทยะฐานะเชี่ยวชาญ ภาพที่ 4 คือ รศ.ศิริชัย หงส์วิทยากร ปัจจุบันประกอบอาชีพผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านสถาปัตยกรรมมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ภาพที่ 5 คือ นายสะมะแอ กะนิ จ.นราธิวาส ปัจจุบันประกอบอาชีพทำสวน ภาพที่ 6 คือ นายอูเซ็ง สะแลแม จ.ปัตตานี ปัจจุบันประกอบอาชีพเลี้ยงปลาในกระชัง ภาพที่ 7 คือ นางวาสนา แก้วหานาม จ.สกลนคร ปัจจุบันประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป และ ภาพที่ 8 คือ คุณหญิงบาร์บารา มาร์เกร็ด-โรส รีเพิล ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ประจำนครมิวนิก สหพันธ์สาธารณารัฐเยอรมนี
นางดอกไม้ กล่าวว่า ขณะเข้าเฝ้าฯบุตรสาวอายุเกือบ 6 ขวบ มีอาการตัวร้อนเป็นไข้สูง พระองค์ทรงใช้ผ้าประคบหน้าผากบุตรสาว เพื่อลดอาการไข้ พร้อมทรงหยอดตา และรับบุตรสาวเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้รับการดูแลจากแพทย์และพยาบาลอย่างดี จนหายเป็นปกติ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่โรงพยาบาลสกลนคร พระองค์ทรงพระราชทานอาหาร เครื่องนุ่งห่ม และเงินสดจำนวนหนึ่ง ปัจจุบันบุตรสาวอายุ 37 ปี พระองค์ทรงรับเป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบ้านทรายทอง (กลุ่มปักผ้า) เพื่อสร้างรายได้เสริมแก่ครอบครัวหลังเสร็จฤดูทำนา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ทางครอบครัวขอเทิดทูนพระองค์ไว้เหนือเกล้าฯตราบชีวิตจะหาไม่ และตนสอนให้ลูกเป็นคนดีของสังคม
นางคำใหม่ กล่าวว่า ครั้งนั้นพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังบ้านดงสวน และเสด็จฯเยี่ยมที่บ้านโพนเป็นการส่วนพระองค์ ทอดพระเนตรการแสดงฟ้อนผู้ไทย และทรงฉายพระรูปร่วมกับตนและชาวบ้าน ทำให้ทุกคนดีใจมาก พระองค์มีรับสั่งว่าไม่อยากกลับเลย อยู่ที่นี่แล้วสนุก และด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ทำให้ผ้าไหมแพรวาของชาวผู้ไทยที่กำลังจะสูญหายได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จนได้รับฉายาผ้าไหมแพรวาราชินีแห่งไหม ส่งผลให้ชาวผู้ไทยบ้านโพนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นางจันทร์ฉาย กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้มีโอกาสเฝ้ารับเสด็จฯ สร้างความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ เพราะตนเป็นครูในถิ่นทุรกันดาร เป็นประชาชนตัวเล็ก ๆ แต่พระองค์ยังเสด็จฯไปถึงเหมือนคำพูดที่ว่าไม่มีพื้นที่ตรงไหนที่ในหลวง และราชินี ไปไม่ถึง ส่วนตัวแล้วรักและเทิดทูนพระองค์อย่างสุดหัวใจภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นประชาชนไทย ใต้เบื้องพระยุคลบาท และขอปฏิญาณว่าจะขอเป็นข้าราชการในพระองค์ที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี และสนองงานอย่างสมศักดิ์ศรีในการเป็นข้ารองพระบาทตลอดชีวิตจะหาไม่
รศ.ศิริชัย กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่ได้รับพระราชทานวโรกาสให้เข้าเฝ้าฯถวายรายงาน และเป็นความภาคภูมิใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการอนุรักษ์ป่าและพันธุ์ไม้ป่า ซึ่งเป็นโครงการที่พระองค์ท่านให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้พระราชทานแนวพระราชดำริและนำพสกนิกรปฏิบัติตลอดทุกปีที่ทรงเสด็จฯเยือนจังหวัดเชียงใหม่ และประทับที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
“จากการอนุรักษ์ป่ามาอย่างต่อเนื่อง และปลูกฝังให้ลูกศิษย์รักป่า ส่งผลให้ลูกศิษย์ตื่นตัวรักผืนป่า และช่วยดูแลป่าไม้ไม่ให้ใครมามำลายป่า” รศ.ศิริชัย กล่าว
นายสะมะแอ กล่าวว่า ยังจำความปลาบปลื้มใจในขณะนั้นได้ดีไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิดพระองค์ทรงทอดพระเนตรการประกวดผลิตภัณฑ์เรือกอ และของสมาชิกมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ และตรัสว่าเรือกอและสวยงามมาก
นายอูเซ็ง กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มมากที่ได้มีโอกาสใกล้ชิดพระท่าน ซึ่งพระองค์ได้เสด็จฯมาเยี่ยมเยียนราษฎรในพื้นที่ และส่งเจ้าหน้าที่มาคอยช่วยเหลือชาวบ้านอยู่ตลอด
นางวาสนา กล่าวว่า ในครั้งนั้นตนได้รับคัดเลือกจากผู้ใหญ่บ้านให้เข้าเฝ้าฯ เพราะมีฐานะยากจนพระองค์ได้พระราชทานผ้าสำหรับปักพร้อมอุปกรณ์และภาพตัวอย่างเป็นภาพดอกบัวอยู่กลางบึง 4 ผืนให้นำไปปักพร้อมรับสั่งว่าเป็นการบ้าน และยังทรงรับตนเข้าเป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพบ้านทรายทอง กลุ่มปักผ้าทำให้ตนและครอบครัวรวมถึงชาวบ้านปลาบปลื้ม และประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่พระองค์ได้พระราชทานความช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ไม่มีที่ทำกินให้มีอาชีพและมีรายได้เลี้ยงครอบครัว
นายวีระ กล่าวว่า รัฐบาลได้มอบหมายให้ วธ. จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 185 รูป โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จากนั้น เวลา 20.00 - 23.30 น. จัดการแสดงเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่การรำถวายพระพรชุดไทยพระราชนิยม การแสดงพื้นบ้าน 4 ภาค และการแสดงโขนเฉลิมพระเกียรติ ชุด นารายณ์ปราบนนทุกพระรามยกศร พระรามคืนนคร นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติของศาสนาอิสลาม คริสต์ ซิกข์ และ พราหม์ - ฮินดู ซึ่งจัดพิธีตามหลักศาสนาในแต่ละศาสนสถานของแต่ละศาสนาในวันที่ ๑๒ ส.ค. ๒๕๕๙ และพิธีรวมพลังทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ในวันที่ 17 ส.ค. 2559 ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สนใจเข้าร่วมกิจกรรมสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนวัฒนธรรม 1765
นายวีระ กล่าวว่า ในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ วธ. ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมใจถวายพระพรแด่พระองค์พร้อมน้อมนำพระราชจริยวัตรอันงดงามที่เป็นต้นแบบของค่านิยมความเป็นไทย ซึ่งเปี่ยมไปด้วยพระเมตตาความเสียสละและความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพสกนิกรชาวไทยมาเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ เพื่อนำความเจริญมาสู่ตนและประเทศชาติต่อไป