ไทยติด 10 ประเทศเลี้ยงลูกด้วยนมแม่น้อยสุดในโลก กรมอนามัย ชี้ บริษัท “นมผง” ทำการตลาดอ้างช่วยเด็กฉลาด แข็งแรง ทำไขว้เขวเลิกเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เร่งดัน พ.ร.บ. คุมการตลาดอาหารทารกฯ ตั้งแต่แรกเกิด - 3 ปี ฝ่าฝืนโทษทั้งจำทั้งปรับ พร้อมประกาศเป็นองค์กรต้นแบบเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
วันนี้ (10 ส.ค.) ที่ลานอเนกประสงค์ กรมอนามัย ภายในงานมหกรรมรวมพลคนกินนมแม่ เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ซึ่งในงาน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย ได้ประกาศนโยบายให้กรมอนามัยเป็นองค์กรต้นแบบส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และเชิญชวนองค์กรหรือหน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ภาครัฐ เอกชน และท้องถิ่น สมัครเข้าร่วม โดยการเป็นองค์กรต้นแบบได้จะต้องมีข้อกำหนด คือ 1. สนับสนุนบุคลากรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือน และกินนมแม่ต่อเนื่องเสริมด้วยอาหารตามวัยจนอายุ 2 ขวบ หรือมากกว่า 2. ให้มารดาหลังคลอดลาพักเลี้ยงลูกเป็นเวลาอย่างน้อย 3 - 6 เดือน 3. มีมุมนมแม่หรือศูนย์เลี้ยงดูเด็กวัยเตาะแตะในสถานที่ทำงาน และ 4. อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนของบุคลากรในหน่วยงานไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
นพ.วชิระ กล่าวว่า การจัดให้มีมุมนมแม่ในสถานที่ทำงานบางแห่งอาจเป็นเรื่องยาก แต่ก็ต้องส่งเสริม ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทใหญ่กว่าร้อยแห่งที่เปิดให้มีมุมนมแม่แล้ว ส่วนที่ต้องส่งเสริมให้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน และกินต่อเนื่องพร้อมอาหารเสริมตามวัยจนถึง 2 ปี หรือมากกว่า เพราะการเจริญเติบโตของเด็กจะเริ่มจากด้านบนลงข้างล่าง คือ เริ่มพัฒนาจากสมอง คอชันได้ ใช้มือ นั่งได้ คลานได้ ยืนได้ และเดินได้ การให้นมแม่ที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า 200 ชนิด แก่ลูกตั้งแต่แรกนั้น จะช่วยให้สมองของเด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยผลวิจัยทั่วโลกยืนยันตรงกันว่าเด็กที่กินนมแม่จะมีไอคิวสูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กิน 5 - 11 จุด และยังทำให้อีคิวดีขึ้นด้วย
“ประเทศไทยติด 1 ใน 10 อันดับประเทศที่มีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียวนาน 6 เดือนน้อยที่สุดในโลก โดยปี 2555 อยู่ที่ร้อยละ 12.3 สาเหตุหนึ่งมาจากการทำการตลาดและโฆษณาของบริษัทผลิตภัณฑ์นมผง อวดอ้างสรรพคุณ โน้มน้าว เปรียบเทียบ จูงใจว่า นมผงมีสารอาหารช่วยให้เด็กฉลาด แข็งแรง ทำให้แม่เข้าใจผิด พลาดโอกาสทองเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งจากการผลักดันการส่งเสริมเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ทำให้อัตราการดื่มนมแม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 23 ในปัจจุบัน” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวและว่า ขณะนี้กรมฯ กำลังผลักดันร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. ... ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว กำลังเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งการโค้ดห้ามทำการตลาดและโฆษณานั้นจะครอบคลุมตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปถึงอายุ 3 ขวบ โดยหลัง พ.ร.บ. ผ่าน จะมีการออกกฎหมายลูกเพื่อบังคับว่าสิ่งใดทำได้หรือทำไม่ได้ และมีบทลงโทษชัดเจน ในส่วนของผู้ประกอบการโทษจำคุกสูงสุด 3 เดือน ปรับสูงสุด 3 แสนบาท ส่วนบุคลากรทางการแพทย์หากทำผิดจะให้สภาวิชาชีพดำเนินการเอาผิด
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่