“ยาหอม” ช่วยปรับสมดุลร่างกาย เผย 4 สูตร ควรมีติดบ้าน “นวโกฐ” ป้องกันก่อนเป็นไข้ “ทิพโอสถ” ช่วยร่างกายฟื้นตัวหลังเป็นไข้รวดเร็ว “เทพจิตร” กระชากอารมณ์ตกต่ำกลับมาเบิกบาน “อินทจักร” ลดอาการอ่อนเพลียจากความเครียดกลับมาสดชื่นแจ่มใส เหมาะสำหรับวัยรุ่น - วัยทำงาน
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก รศ.รุ่งระวี เติมศิริฤกษ์กุล อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานเสวนาการแพทย์แผนไทย เรื่อง “อนาคตยาหอมไทย สู่อาเซียน” ว่า คนทั่วไปโดยเฉพาะวัยรุ่นยังไม่ค่อยรู้จักยาหอมมากนัก เพราะเข้าใจแค่ว่ายาหอมมีฤทธิ์ช่วยในเรื่องแก้อาการวิงเวียน เหมาะสำหรับผู้สูงอายุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะยาหอมโดยแท้จริงแล้วคือการปรับสมดุลธาตุในร่างกาย คือ ธาตุลม และธาตุไฟ ให้เดินได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด เปรียบเสมือนตัวหล่อลื่นให้เครื่องยนต์ทำงานได้สะดวก โดยสรรพคุณของยาหอมสามารถนำมาใช้ปรับสมดุลธาตุ บำรุงครรภ์ แก้ไข้ บำรุงร่างกาย บำรุงโลหิตประจำเดือน ช่วยปรับอารมณ์ และช่วยทำให้นอนหลับด้วย จึงเหมาะสำหรับกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานด้วย
รศ.รุ่งระวี กล่าวว่า ยาหอม 4 ชนิด ที่ควรมีประจำบ้าน คือ 1. ยาหอมนวโกฐ ช่วยป้องกันพิษไข้และช่วยร่างกายฟื้นตัวจากการป่วยไข้เร็วขึ้น โดยเมื่อเริ่มมีอาการต้นของไข้ คือ ครั่นเนื้อครั่นตัว รุม ๆ หากรับประทานยาหอมนวโกฐภายใน 24 ชั่วโมง ก็จะช่วยป้องกันได้ หรือรับประทานหลังจากหายไข้ก็จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ทำให้ประหยัดสุขภาพ ไม่ต้องป่วย ประหยัดค่ายาและลดการใช้ยา ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลนาน หรือใช้วันลามาก เหมาะสำหรับคนทำงานอย่างมาก 2. ยาหอมเทพจิตร เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มักชอบมีอาการสวิงสวาย หงุดหงิด โมโหง่าย ซึม ก็จะช่วยปรับอารมณ์ให้กลับมาเบิกบานได้ ก่อนที่อารมณ์จะตกลงไปถึงขั้นทำให้ร่างกายเป็นโรค หรือถึงขั้นซึมเศร้า เช่น บางคนอกหักรักคุด อารมณ์ก็ตกลงไป ช่วงจะสอบแล้วอ่านหนังสือไม่ได้ อ่านไม่เข้าหัวเลย ทำให้เครียด เมื่อรับประทานยาหอมเทพจิตรก็จะช่วยปรับอารมณ์ตรงนี้ขึ้นได้ เพราะทำให้เลือดลมเดินได้สะดวก
รศ.รุ่งระวี กล่าวว่า 3. ยาหอมอินทจักร ช่วยให้ร่างกายที่อ่อนเพลียกลับมาสดชื่นแจ่มใสได้ ซึ่งต่างจากการรับประทานกาแฟ หรือพวกกาเฟอีนต่าง ๆ ที่ออกฤทธิ์กระตุ้นร่างกาย ทำให้ตาค้าง แต่ร่างกายไม่ได้สดชื่น เมื่อหมดฤทธิ์ก็กลับมาเพลียเหมือนเดิมหรือเป็นมากกว่าเดิม แต่ยาหอมอินทจักรจะไปช่วยให้ลมในร่างกายไหลเวียนเป็นปกติ ปลุกไฟในร่างกายขึ้นมาตามธรรมชาติ จึงเป็นการออกฤทธิ์ที่ต่างกัน และ 4. ยาหอมทิพโอสถ ซึ่งนำมาใช้หลังป่วยไข้หวัดได้ดีมาก ลดอาการอ่อนเพลียหลังจากป่วยไข้หวัด สำหรับการรับประทานยาหอมนั้น ในกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงานก็สามารถทานได้ 2 - 3 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน หรือเมื่ออาการดีขึ้นแล้วก็หยุดการใช้ยา เพราะหากรับประทานมากไปก็จะมีผลกระทบ ยิ่งวัยรุ่นเป็นช่วงที่มีธาตุไฟมาก การรับประทานนาน ๆ ก็อาจไปกระตุ้นธาตุไฟทำให้เกิดการร้อนในได้ จนควรกินยาเมื่อร่างกายเริ่มไม่สมดุลและหยุดยาเมื่อร่างกายกลับมาสมดุลแล้ว
“อย่างวันนี้นั่งคิดงานอย่างไรก็ไม่ออก อ่อนเพีลยไม่มีสาเหตุ ไม่อยากทำงาน อยากนั่งเฉย ๆ แสดงว่าร่างกายไม่สมดุล ก็ควรรับประทานยาหอมก่อนที่สมดุลในร่างกายจะแย่ไปกว่านี้แล้ว ทำให้ร่างกายป่วย เมื่อรับประทานไปแล้วร่างกายก็จะปรับสมดุลจนเป็นปกติ เช่น กลับมาสดชื่น แจ่มใส ก็เลิกรับประทานได้ ส่วนปริมารในการกินนั้น เนื่องจากการผลิตของแต่ผู้ประกอบการแต่ละรายจะไม่เหมือนกัน ก็ควรอ่านฉลากก่อนรับประทาน ส่วนในกลุ่มผู้สุงอายุร่างกายทำงานได้ไม่ดีเหมือนเดิมก็สามารถรับประทานได้ทุกวัน แต่ต้องระมัดระวังเรื่องของการเลือดออกง่าย เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ไม่ข้น ยิ่งคนมีโรคประจำตัวแล้วรับประทานร่วมกับยาแอสไพริน หรือยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดก็ต้องระวัง ยิ่งจะมีการผ่าตัดก็ต้องหยุดยาและแจ้งแพทย์ด้วย” รศ.รุ่งระวี กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่