xs
xsm
sm
md
lg

จ่อฟ้อง “ม.ล.ไฮโซ อ.” ฉ้อโกงจัดคอนเสิร์ตการกุศล “หมอฟันมหิดล” แฉ จนท.คณะ-นักข่าว มีเอี่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บริษัทออแกไนซ์ จ่อฟ้อง ม.ล.ไฮโซ “อ.” ฉ้อโกงจัดคอนเสิร์ตการกุศล “ศิษย์เก่าหมอฟันมหิดล” แฉยับพยายามเบิกเงินเต็มงบ 3.5 ล้านบาท งัดมุกโก่งราคา - ค่าใช้จ่ายเลื่อนลอย ไม่มีจริง เผยเจ้าหน้าที่คณะ - นักข่าวราชสำนักชื่อ ป. มีเอี่ยว ด้านนายกสมาคมศิษย์เก่าฯ รับให้เงินไปจัดงานก่อน เพราะไว้ใจ เห็นเป็นบุคคลมีชื่อเสียง ประสานงานศิลปินดังได้

วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ทพ.นิติพันธ์ จีระแพทย์ นายกสมาคมศิษย์เก่าทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล พร้อม ทพ.ประดิษฐ์ เจษฎาไกรสร เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าทันตแพทยฯ และ นายประดิษฐ์ สมดังเจตน์ กรรมการผู้จัดการ บ.มาสเตอร์พีซ ออแกไนเซอร์ จำกัด ร่วมแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง กรณีพบข้อทุจริตการจัดงานคอนเสิร์ตการกุศล “สร้างรอยยิ้มเพื่อผู้ยากไร้และด้อยโอกาส” ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้นไปเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา และรายได้ที่เกิดขึ้นจะสมทบทุนเข้ามูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และ มูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล

ทพ.นิติพันธ์ กล่าวว่า การทำงานหนึ่งของคณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล คือ ทำงานเพื่อสาธารณกุศล ซึ่งมีการทำมาโดยตลอด และในปีนี้เนื่องในโอกาสครบรอบ 48 ปีของคณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล จึงมีการจัดคอนเสิร์ตการกุศลดังกล่าวขึ้น เพื่อหาเงินสมทบทุนให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก และมูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล เพื่อช่วยเหลือศิษย์เก่าที่ได้รับความลำบาก ส่วนข้อทุจริตที่เป็นปัญหามาจาก “ผู้ควบคุมการผลิต” ซึ่งยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เจ้าหน้าที่ของคณะทันตแพทย์มหิดล ชื่อย่อ ห. เป็นผู้แนะนำให้รู้จัก โดยระบุว่า เป็นนักสังคมสงเคราะห์ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม ช่วยงานคอนเสิร์ตการกุศลมาแล้วหลายงาน อย่างจัดงานราตรีให้มูลนิธิคณะทันตแพทย์มหิดล ก็มีรายได้เข้ามากว่า 10 ล้านบาท ทั้งยังสามารถเชิญศิลปินชื่อดังมาได้ อาทิ โดม เดอะสตาร์ กัน เดอะสตาร์ เป็นต้น จึงขอให้บุคคลดังกล่าวมาช่วยเป็นผู้ควบคุมการผลิตให้ เนื่องจากคณบดีคณะทันตแพทยฯ ไม่อยากให้มีการจ้างออแกไนเซอร์ ซึ่งการจัดคอนเสิร์ตการกุศลครั้งก่อนได้มีการจ้างออแกไนเซอร์และใช้งบประมาณกว่า 7 ล้านบาท ดังนั้น สมาคมศิษย์เก่าฯ ประมาณการงบประมาณลดลงครึ่งหนึ่ง คือ ตั้งไว้ไม่เกิน 3.5 ล้านบาท และให้บุคคลดังกล่าวมาเป็นผู้ควบคุมการผลิต ซึ่งได้มีการบวกเงินเผื่อ 10% เป็นค่าดำเนินการให้อยู่แล้ว รวมถึงตั้งงบค่าแถลงข่าวจัดงานอีก 1 แสนบาท รวมเป็น 3.6 ล้านบาท

“ปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดจากความไว้วางใจ ซึ่งช่วงระหว่างการดำเนินงาน ผู้ควบคุมการผลิตคนนี้ก็ได้มีการมาเบิกเงินอย่างต่อเนื่อง รวม 7 ครั้ง เป็นเงิน 2.6 ล้านบาท ซึ่งให้ไปด้วยความไว้วางใจ มีใบการโอนเงินเข้าบัญชีชื่อคน ๆ นี้ชัดเจน แต่ไม่ได้มีการเรียกใบเสร็จรับเงินมา เพราะความไว้วางใจว่ามาช่วยงาน และหลังจากจบงานค่อยมาเคลียร์ใบเสร็จกัน แต่พอจัดคอนเสิร์ตเรียบร้อย ปรากฏว่า ทุกอย่างไม่ได้ดังใจ บัตรก็ขายไม่ได้ ต้องเอาเงินสปอนเซอร์มาซื้อบัตรแจกให้คนมาดู วงดนตรีก็ไม่อลังการ มีเครื่องดนตรีเพียง 5 ชิ้น แต่หลังจบงานกลับจะมาเบิกเงินเต็มจำนวน 3.5 ล้านบาท ทั้งที่จากคุณภาพงานแล้วน่าจะเหลือเงินนำมาคืนจากที่เอาไป 2.6 ล้านบาท ด้วยซ้ำ จึงขอให้การต่อรองเรื่องราคา โดยมี ทพ.ประดิษฐ์ เจษฎาไกรสร เลขาธิการสมาคมศิษย์เก่าฯ เป็นผู้ไปเจรจาต่อรอง เพราะผมไม่อยากคุยกับทางนั้น” ทพ.นิติพันธ์ กล่าว

ทพ.ประดิษฐ์ กล่าวว่า ทางผู้ควบคุมการผลิตได้โทรศัพท์ติดต่อตน เพื่อขอเงินที่เหลือ แต่เมื่อตนดูรายละเอียดค่าใช้จ่าย พบว่า ค่านักร้องมากถึง 1.5 ล้านบาท กับนักร้องจำนวนเพียง 8 คน ที่มาจากค่ายเอ็กแซ็กท์ จึงเกิดความสงสัย ซึ่งจากการสอบถามคนไข้ที่เป็นนักดนตรี ก็บอกว่า งานการกุศลราคาไม่น่าจะถึงเท่านี้ ก็ต่อรองลดราคาไป 5 แสนบาท ทางนั้นก็ไม่ยินยอม ตนจึงขอใบค่าตัวจากทางต้นสังกัดมา ทางนั้นก็หายไปสักพักหนึ่ง แล้วกลับมาระบุว่าค่านักร้องเหลือ 8 แสนกว่าบาท

ด้าน นายประดิษฐ์ สมดังเจตน์ กรรมการผู้จัดการ บ.มาสเตอร์พีซ ออแกไนเซอร์ จำกัด กล่าวว่า ตนรู้จักผู้ควบคุมการผลิตฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทราบดีว่า ตนทำงานอะไรมาบ้าง ทั้งออแกไนซ์ จัดละคร ผู้จัดการดารา สอนหนังสือ จึงชวนตนมาทำงาน ซึ่งการพูดคุยนัดแรกก็มีรุ่นพี่คนนี้มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่คณะชื่อย่อ ห. และนักข่าวสายราชสำนักชื่อย่อ ป. ประมาณปลาย ก.พ. ที่ผ่านมา โดยบอกว่าเป็นการจัดคอนเสิร์ตการกุศล เอาเงินไปช่วยผู้ป่วยยากไร้ โดยขอให้มาช่วยในส่วนของโปรดักชันการผลิตต่าง ๆ ตนก็รับปากยินดีที่จะช่วย เพราะแต่ละปีบริษัทจะมีการบริจาคเงินเข้าองค์กรการกุศลอยู่แล้ว จึงตั้งใจว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในส่วนของตนจะมอบให้กับทางสมาคมฯ และขอใบอนุโมทนาบัตร เพื่อนำไปหักภาษี เพราะเป็นการนำเงินออกจากบริษัทต้องมีหลักฐานชัดเจน ซึ่งตลอดการดำเนินงานทางผู้ควบคุมการผลิตก็จะบอกว่าเป็นงานการกุศล ทางผู้จัดคือสมาคมศิษย์เก่าฯ ยังไม่มีงบ ตนก็ออกไปก่อนราว 7 แสนบาท แต่ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีกโดยตลอด เช่น งบประมาณในส่วนของการเตรียมการรับเสด็จฯ อย่างวงโยทวาธิตที่ต้องมี ค่าอาหารต่าง ๆ ซึ่งภายหลังผู้คบคุมการผลิตบอกว่าขอเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้เอง จนกระทั่งคอนเสิร์ตสำเร็จลงด้วยดี

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาเกิดขึ้นหลังจากพ้นการจัดงานไป 1 เดือน เมื่อตนทวงถามถึงใบอนุโมทนาบัตร จนเป็นเวลากว่า 2 เดือน ก็ยังไม่ได้ เมื่อถามไปทางสมาคมฯ เขาก็ไม่รู้เรื่อง จึงมาถามเอากับผู้ควบคุมการผลิตคนนี้ จึงทราบว่ามีปัญหาทะเลาะกับทางนายกสมาคมฯ ตนจึงขอคุยกับทางสมาคมฯเอง และมีโอกาสได้คุยกับผู้จัดการมูลนิธิคณะทันตแพทยศาสตร์มหิดล ก็บอกกับตนว่า มูลนิธิจะออกให้เป็นใบขอบคุณให้ แต่ออกใบอนุโมทนาฯ ไม่ได้ เพราะมีการตั้งเบิกจ่ายไปแล้ว เหตุใดจึงเอาทั้งเงินและใบฯ จึงติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ห. ของคณะ เขาก็ตอบอะไรไม่ได้ จึงติดต่อคุยกับนายกสมาคมฯ โดยตรง และแลกเปลี่ยนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางนายกสมาคมฯ ก็ส่งเอกสารค่าใช้จ่ายที่ทางผู้ควบคุมการผลิตมาให้ 5 หน้า ก็พบว่ามีความพยายามเบิกเงินค่าใช้จ่ายให้ได้เต็มจำนวน 3.5 ล้านบาท ทั้งที่ดูจากค่าใช้จ่ายแล้วไม่น่าจะเป็นจริงตามนี้

“อย่างรายละเอียดค่าใช้จ่ายฝ่ายผลิตรวม 15 รายการ จำนวน 1.45 ล้านบาท ก็ชัดเจนว่าค่าออกแบบจัดทำเวทีฉากและติดตั้งรื้อถอน จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อผมบริจาคเป็นการกุศล หรืออย่างค่าอุปกรณ์เทคนิค ค่าเช่ารถบรรทุกขนของอุปกรณ์จัดทำเวทีจัดแสงสีเสียงทั้งไปและกลับตรงนี้ไม่มีแน่นอน เพราะต้องรวมอยู่ในรายการค่าอุปกรณ์แสงสีเสียงพร้อมติดตั้งและรื้อถอนอยู่แล้ว หรืออย่างค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตทุกแผนกจำนวน 40 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ในงานทั้งหมดเป็นคนของผม ผมก็เป็นคนจ่ายเงินเอง ค่าใช้จ่ายตรงนี้มีได้อย่างไร หรือค่าไวร์เลส 23 ตัว แต่ศิลปินมี 9 คนเท่านั้น เอาไว้ใช้สำหรับใคร ไหนจะมีค่าวงโยธวาทิต พร้อมค่ารถบัสรับส่งที่โผล่มา ทั้งที่บอกเองว่าจะเป็นเงินช่วยเหลือของคุณ ค่าใช้จ่ายฝ่ายผลิตทั้งหมดจริงๆ ผมว่าประมาณ 4 แสนกว่าบาท เท่ากับว่าค่าใช้จ่ายหายไปล้านนึง” นายประดิษฐ์ กล่าว

นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ส่วนค่าดนตรี 4 รายการ จำนวน 302,000 บาท ระบุว่า เป็นค่าเช่าห้องซ้อมดนตรีเหมา 3 วัน 13,500 บาท แต่ความเป็นจริงการซ้อมมีเพียงวันเดียว ค่าเรียบเรียงเพลง 29 เพลง 15,500 บาท เพลงที่เอามาร้องก็เป็นเพลงที่ศิลปินร้องประจำอยู่แล้ว ไม่มีการทำเพลงใหม่เลย ตรงนี้ต้องไม่เกิดค่าใช้จ่าย ส่วนค่าเช่ารถรับส่งขนย้ายติดตั้งเครื่องดนตรี นักดนตรี และเจ้าหน้าที่ 23,000 บาท ปกติก็ต้องใช้ซัปพลายเออร์เดียวกันกับการเช่าเครื่องเสียงอยู่แล้ว ไม่น่าเกิดขึ้น ส่วนค่าตอบแทนนักดนตรีวันซ้อม วันจริง 5 คิว 250,000 บาท จริง ๆ มีซ้อมเพียง 1 คิว วันจริงก็ไม่นับเรียกว่าเงินส่วนนี้หายไปอีกหลายแสนบาท ขณะที่ค่าศิลปินและค่าบริหารจัดการ รวม 10 รายการ จำนวน 1.4 ล้านบาท พบค่าศิลปิน 8 คน จำนวน 8.7 แสนบาท ก็ไม่น่าเป็นไปได้ จึงถามทางสมาคมฯ ว่า ได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปทางต้นสังกัดหรือไม่ ซึ่งปกติค่าตัวก็อยู่ประมาณแสนนึงแล้วแต่ความดัง ถ้างานการกุศลและมีการทำหนังสือขออนุเคราะห์ก็ไม่น่าจะถึง หรือค่ารถตู้รับส่งศิลปินและทีมงานวันซ้อมและวันจริง ความจริงคือในวันจริงศิลปินก็เอารถมาเอง เป็นต้น ยิ่งค่าบริหารจัดการ 4 แสนบาท จริง ๆ แล้วการบริหารจัดการเป็นส่วนของตนทั้งหมด จะเป็นของผู้ควบคุมการผลิตได้อย่างไร ซึ่งตามจริงแล้วน่าจะมีค่าใช้จ่ายเหลือคืน 2.5 - 2.8 ล้านบาทด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ล้วนมีนักข่าว ป. เป็นผู้เซ็นชื่อ และเป็นผู้นำกล้องวิดีโอเข้ามาถ่ายงาน

“หลังจากทราบรายละเอียดตรงนี้ ก็มีความพยายามในการติดต่อกับผู้ควบคุมการผลิต แต่ได้รับคำตอบ คือ อยู่ระหว่างการต่อรองราคากับสมาคมฯ อยู่ เขาก็บอกว่าเงินค่าดำเนินการ 7 แสนบาท ที่ผมตั้งใจจะบริจาค ก็ให้ผมไปรับเงินกับสมาคมฯ ซึ่งผมไม่ขอรับ เพราะมิเช่นนั้นอาจกลายเป็นผมอยู่ร่วมขบวนการด้วย ที่สำคัญคือ คุณรู้ตั้งแต่เมื่อไรว่าการจัดงานมีงบ 3.5 ล้านบาท ซึ่งอีก 3 วันก่อนแสดงคอนเสิร์ตยังบอกผมว่าเป็นงานการกุศลไม่มีเงิน ก็ไม่ตอบผมว่าทราบเมื่อไร ผมบอกว่าให้เอาเงินที่เหลือมาคืนสมาคมฯ แล้วตกลง 3 ฝ่าย โดยให้เวลาถึงวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใด ๆ จึงได้มีการไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.ห้วยขวาง ส่วนทางสมาคมฯ ลงบันทึกประจำวันที่ สน.พญาไท และจึงมีการแถลงข่าวต่อสาธารณชนขึ้น เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง” นายประดิษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการฟ้องร้องหรือไม่ นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับฝ่ายทนาย โดยจะมีการฟ้องร้องฐานฉ้อโกง

ทพ.นิติพันธ์ กล่าวว่า เราเป็นผู้เสียหาย อยากให้มาเคลียร์เรื่องเงินคืน มิเช่นนั้น จะดำเนินการทางกฎหมายต่อ ก็คือ การฟ้องร้อง ซึ่งต้องหารือกับคณะกรรมการในสมาคมฯ ก่อน สำหรับรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท แม้เรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น 3.5 ล้านบาท จะไม่กระทบกับเงินที่จะบริจาค แต่ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง จึงต้องมีการดำเนินการ ส่วนเจ้าหน้าที่ ห. ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว สำหรับยอดเงินบริจาค มีเงินเข้ามาในบัญชีประมาณ 7 ล้านกว่าบาท ซึ่งได้มีการมอบให้แก่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ไปแล้วบางส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคอนเสิร์ตการกุศล “สร้างรอยยิ้มเพื่อผู้ยากไร้และด้อยโอกาส” จัดขึ้นวันที่ 1 พ.ค. 2559 ที่หอประชุมใหญ่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย มีศิลปินมาร่วมจำนวน 9 ราย อาทิ แก้ม วิชาญาณี เปียกลิ่น กัน นภัทร อินทร์ใจเอื้อ แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ ฮั่น อิสริยะ ภัทรมานพ เป็นต้น มี ทพ.นิติพันธ์ จีระแพทย์ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการจัดคอนเสิร์ต มี ม.ล.ไฮโซ อ. เป็นผู้ประสานงานศิลปินและควบคุมการผลิต



















ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่


กำลังโหลดความคิดเห็น