xs
xsm
sm
md
lg

รพ.ตำรวจผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบไร้แผลสำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทีมศัลยแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีแบบไร้แผลสำเร็จเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งเป้าเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลชั้นนำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทีมศัลยแพทย์ผ่าตัดส่องกล้องของโรงพยาบาลตำรวจ นำโดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์, พ.ต.ท.นพ.อัครพร ดีประเสริฐวิทย์, พ.ต.ท.นพ.สรวิชญ์ วิจิตรพรกุล และ นพ.พรพีระ จิตต์ประทุม จากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ในการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องแบบไร้แผล (Transvaginal Hybrid Cholecystectomy) เป็นแห่งแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้วิธีนี้ในการผ่าตัดผู้ป่วยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 จนถึงปัจจุบัน รวม 15 ราย ซึ่งทุกรายไม่พบภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ความสำเร็จนี้ได้สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติให้แก่โรงพยาบาลตำรวจ และประเทศไทย ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลตำรวจ ในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลชั้นนำ (Minimally Invasive and NOTES Surgery Excellent Center) แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต

พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์ จากหน่วยผ่าตัดผ่านกล้องศัลยกรรม กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า โรงพยาบาลตำรวจ เป็นโรงพยาบาลแห่งแรกในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประสบความสำเร็จในการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผล ซึ่งนับเป็นความสำเร็จอีกขั้นของวงการศัลยแพทย์ไทย ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก เพราะผู้ป่วยแทบไม่มีอาการเจ็บปวดหลังการผ่าตัดเลย ทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิต เนื่องจากไม่สร้างรอยแผลเป็นหลังผ่าตัด

โรคนิ่วในถุงน้ำดีพบได้บ่อยในผู้ใหญ่วัยกลางคน โดยเฉพาะเพศหญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และมีรูปร่างท้วม โดยพบประมาณ 20% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งในอดีต หากโรคมีอาการรุนแรงจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบเปิด (Open cholecystectomy) โดยเปิดแผลใต้ชายโครงขวาประมาณ 15 ซม. ทำให้ผู้ป่วยเจ็บปวดมากและต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลราว 1 อาทิตย์ และจะมีแผลเป็นที่ชายโครงขวาอย่างชัดเจน ต่อมามีการผ่าตัดแบบผ่านกล้อง (Laparoscopic Cholecystectomy) โดยใช้วิธีเจาะรูขนาดเล็กขนาด 0.5 - 1 ซม. จำนวน 3 - 4 รู ที่หน้าท้อง แล้วใช้กล้องส่องเข้าไปในช่องท้องพร้อมสอดเครื่องมือเพื่อตัดถุงน้ำดีออกมา แม้วิธีนี้จะเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคนไข้พักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 2 - 3 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ แต่ก็ยังคงมีอาการเจ็บแผลผ่าตัดมากในวันแรก ๆ ซึ่งต้องให้ยาระงับปวดแบบฉีด และหลังจากนั้นจะยังคงมีแผลเป็นบนหน้าท้องค่อนข้างชัดเจน

เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ศัลยแพทย์ประเทศเยอรมนีได้คิดค้นเทคนิคการผ่าตัดถุงน้ำดีแบบไร้แผลผ่านช่องธรรมชาติ (Natural orifice translumenal endoscopic surgery : NOTES) ซึ่งเราเรียกการผ่าตัดแบบนี้ว่า การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านทางช่องคลอด (Transvaginal cholecystectomy) และได้มีการพัฒนาเครื่องมือและเทคนิคมาอย่างต่อเนื่องจนเริ่มเป็นที่สนใจของวงการผ่าตัดในปัจจุบัน โดยเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมา ทีมศัลยแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจได้เข้าร่วมโครงการความร่วมมือและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการผ่าตัดผ่านกล้อง โดยเฉพาะการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผล จากศัลยแพทย์ของประเทศเยอรมนีผู้ริเริ่ม และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดแบบนี้มากที่สุดในโลก โดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์ เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสตราจารย์ศาสตราจารย์รับเชิญ (Visiting Professor) จากมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา (Yale University School of Medicine) เพื่อสอนบรรยายและผ่าตัดไทรอยด์ผ่านกล้องแบบไร้แผล (Transoral Endoscopic Thyroidectomy) ในฐานะผู้บุกเบิกและทำการผ่าตัดด้วยวิธีนี้มากที่สุดในโลกให้แก่ศัลยแพทย์ที่มหาวิทยาลัยเยล โดย พ.ต.ต.นพ.อังกูร ได้เรียนรู้และสังเกตการณ์การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านทางช่องคลอดในมหาวิทยาลัยเยล ถือเป็นสถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัดวิธีนี้มากที่สุดในสหรัฐอเมริกา

สำหรับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้องแบบไร้แผลที่โรงพยาบาลตำรวจ ดำเนินการโดยทีมศัลยแพทย์ทั้ง 4 ท่าน ได้แก่ พ.ต.ต.นพ.อังกูร อนุวงศ์, พ.ต.ท.นพ.สรวิชญ์ วิจิตรพรกุล และ นพ.พรพีระ จิตต์ประทุม ซึ่งจบการศึกษาต่อยอดด้านการผ่าตัดส่องกล้อง (Minimally Invasive Surgery) มีความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดส่องกล้องโดยตรง และ พ.ต.ท.นพ.อัครพร ดีประเสริฐวิทย์ ซึ่งสำเร็จการศึกษาด้านตับ ตับอ่อน ทางเดินน้ำดี (Hepato-Pancreato-Biliary Surgery) โดยทำการผ่าตัดร่วมกัน ซึ่งทีมศัลยแพทย์จะปรึกษากับสูติแพทย์ในการวางแผนทั้งก่อนและระหว่างการผ่าตัดอย่างรัดกุม เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย

ขั้นตอนการผ่าตัด
ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบพร้อมใส่ท่อช่วยหายใจ จากนั้นทีมศัลยแพทย์จะเจาะรูขนาด 5 มิลลิเมตรที่สะดือ เพื่อใส่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในท้อง จากนั้นจะสอดกล้องขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. และเครื่องมือขนาดเล็กผ่านทางช่องคลอดเข้าสู่บริเวณช่องท้อง เพื่อทำการตัดเลาะถุงน้ำดีและดึงออกทางช่องคลอด และเย็บแผลภายในช่องคลอดที่มีขนาดเพียง 1 ซม. ด้วยไหมละลาย ซึ่งทั้งหมดใช้เวลาเพียง 30 นาที - 1 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยแทบจะไม่เสียเลือดเลย หลังผ่าตัดผู้ป่วยพักฟื้นที่โรงพยาบาลเพียง 1 คืน และสามารถกลับบ้านได้ในเช้าวันรุ่งขึ้น

ข้อดีของการผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านช่องคลอดแบบไร้แผล
ผู้ป่วยมีอาการเจ็บปวดน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดด้วยวิธีอื่น เนื่องจากช่องที่เจาะเข้าไปในช่องท้อง คือ ช่องที่อยู่ใต้ปากมดลูก ซึ่งบริเวณนั้นไม่มีเส้นประสาทรับความรู้สึก ส่วนแผลในช่องสะดือมีขนาดแค่ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น คนไข้ผู้ป่วยจึงแทบไม่มีความรู้สึกเจ็บเลย หลังการผ่าตัดผู้ป่วยยังฟื้นตัวได้เร็วมากและสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ราวกับไม่เคยผ่านการผ่าตัดมาก่อน

“การผ่าตัดถุงน้ำดีผ่านกล้องทางช่องคลอดแบบไร้แผลนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของโรงพยาบาลตำรวจ ต่อจากการผ่าตัดไทรอยด์ไร้แผลผ่านทางช่องปาก (Transoral Endoscopic Thyroidectomy) ที่โรงพยาบาลตำรวจได้ริเริ่มขึ้นเป็นแห่งแรกเมื่อสองปีก่อน ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ของการผ่าตัดแบบไร้แผลในประเทศไทย และสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติให้แก่ประเทศ โดยโรงพยาบาลตำรวจได้วางวิสัยทัศน์สู่การเป็นศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องแบบไร้แผลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในอนาคตอันใกล้นี้” นพ.อังกูร กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น