วันนี้ (10 มิ.ย.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ ผู้บริหารการศึกษา ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมโครงการ “ครูตู้สัญจรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี” ที่จังหวัดอุบลราชธานี
รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ดำเนินการขยายผลการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมไปยังโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ จำนวน 15,369 โรงเรียน โดยรับสัญญาณการจัดการเรียนการสอนจากโรงเรียนวังไกลกังวล ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 ส่งผลให้โรงเรียนขนาดเล็กมีคุณภาพทางการเรียนการสอนสูงขึ้นโดยพิจารณาจากผลการทดสอบ O-NET และการ ประเมิน NT ตั้งแต่ปีการศึกษา 2557 เป็นต้นมา
สำหรับการจัดงาน “ครูตู้สัญจร เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๗๐ ปี ในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ถือเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาของนักเรียนปลายทางแด่ครูต้นทาง คือ ครูโรงเรียนวังไกลกังวล และเพื่อติดตามการดำเนินงานการจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม รวมถึงนำเสนอห้องเรียนทางไกลผ่านดาวเทียมที่มีผลการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ซึ่งการลงพื้นที่ติดตามตรวจเยี่ยมโรงเรียนการศึกษาทางไกลในครั้งนี้ ได้มีการประชุมมอบนโยบายแก่ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษาในการขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนทางไกลผ่านดาวเทียมอย่างเป็นรูปธรรมและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมมีการติดตามตรวจเยี่ยมการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนบ้านข้ามป้อม อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี โดยเปิดทำการสอนตามหลักสูตรการสอนระดับประถมศึกษา มีนักเรียนทั้งหมด รวม 66 คน โดยมี นายไพรัตน์ ครองยุติ เป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ทางโรงเรียนเป็นตัวอย่างที่ดีในการนำระบบ DLTV มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ นักเรียนได้เรียนอย่างมีความสุขและมีคุณภาพรวมถึงมีการขยายผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนเชิงรุกในการส่งเสริมระบบการเรียนการสอนทางไกลให้เหมาะสมกับบริบทในพื้นที่ ส่งผลให้นักเรียนมีคุณภาพทางการศึกษาที่สูงขึ้นตามลำดับ
ทั้งนี้ สพฐ. ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างเต็มรูปแบบจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามเป้าประสงค์ คือ การสร้างระบบการศึกษาที่มีความเสมอภาคอย่างยุติธรรมเพื่อความเป็นธรรมในสังคม เพื่อให้ผู้เรียนในทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ และทุกระดับ ได้รับการศึกษาที่เสมอภาค มีคุณภาพเท่าเทียมกันตามศักยภาพและเป้าหมายการศึกษา โดยมีมาตรการที่สำคัญ 3 ประการ คือ การประกันโอกาสทางการศึกษา การประกันคุณภาพการศึกษา และการประกันประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายและแนวทางการดำเนินการไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีการบูรณาการความร่วมมือในด้านการพัฒนาบุคลากร การพัฒนาการจัดการเรียนการสอน การนิเทศ การบริหารจัดการ และการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศรวมถึงให้มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม มีประโยชน์เชิงพัฒนาและสอดคล้องกับเป้าหมาย” ต่อไป รมช.ศธ. กล่าว