xs
xsm
sm
md
lg

ว่าด้วยเรื่อง “ฟัน” ของพี่น้องแรงงาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นิมิตร์  เทียนอุดม
จั่วหัวอย่างนี้ อย่าคิดเป็นอย่างอื่น ผมกำลังหมายถึงสิทธิด้านทันตกรรมของพี่น้องแรงงานไทยครับ ในโอกาสที่ได้อย่างไม่เสียอย่างฉบับนี้ได้สู่สายตาผู้อ่านในวันที่ 3 พฤษภาคม ถัดจากวันแรงงานมา 2 วัน จึงถือ โอกาสพูดเรื่อง “ฟัน” ในฉบับนี้ เพราะอยากสื่อสารถึงพ่อแม่พี่น้องแรงงานที่ใช้สิทธิประกันสังคม ว่า สิทธิด้านทันตกรรมของพี่น้องแรงงานด้อยกว่าคนที่ใช้สิทธิอื่นๆ

ปัจจุบันคนใช้ประกันสังคมมีสิทธิเบิกค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรม 600 บาทต่อปี และให้สิทธิเบิกได้หนึ่งครั้งต่อปี ซึ่งสิทธิการรักษาดังกล่าวครอบคลุมเพียงการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน และศัลยกรรมช่องปากเท่านั้น

ทีนี้มาดูเรื่องค่าใช้จ่ายที่คน ๆ หนึ่งจะต้องใช้เมื่อเข้ารับการรักษาด้านทันตกรรมกันบ้างว่าแต่ละครั้งเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ กรณีถอนฟัน 500 - 600 บาท/ซี่ อุดฟัน 400 - 600 บาท/ซี่ (แต่ถ้าผ่าฟันคุดค่าใช้จ่ายจะสูงกว่านี้) ขูดหินปูนราว 500 - 800 บาท แต่ถ้ารักษารากฟัน ค่าใช้จ่ายจะขึ้นหลักพันจนถึงหลักหมื่น

ค่าใช้จ่ายดังกล่าวอ้างอิงราคาจากคลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งราคาอยู่ในระดับกลาง ๆ จากการสำรวจจากหลายคลินิก ที่ใช้ราคาอ้างอิงจากคลินิก เนื่องจากผู้ประกันตนส่วนใหญ่มักจะเลือกบริการด้านทันตกรรมจากคลินิกมากกว่าโรงพยาบาลของรัฐเพราะสะดวกและสอดคล้องกับชีวิตการทำงาน

หากพิจารณาจากค่าใช้จ่าย หากผู้ประกันตนคนหนึ่งจะไปใช้บริการด้านทันตกรรมก็จะพบว่า

•ผู้ประกันตนไม่สามารถใช้บริการด้านการรักษารากฟันได้ เพราะไม่อยู่ในสิทธิประกันสังคม

• กรณีถอนฟัน อุดฟัน ใน 1 ปี สามารถถอนหรืออุดได้ 1 ซี่ ถ้าปวดฟันมากกว่า 1 ซี่ซึ่งอาจจะ ต้องถอนหรืออุดเพื่อการรักษาให้ได้ผล ก็จะต้องจ่ายในส่วนที่เกินวงเงินเอง

•ถ้าปีนั้น ผู้ประกันตนได้ใช้สิทธิถอนหรืออุดฟันจนครบวงเงิน 600 บาทไปแล้ว จะไม่มีสิทธิใช้บริการขูดหินปูน ทั้งที่โดยหลักการคือ ควรขูดหินปูนทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพที่ดีของช่องปาก

เมื่อเทียบกับสิทธิราชการและสิทธิบัตรทอง จะพบว่า ทั้งสองสิทธิครอบคลุมการรักษาด้านทันตกรรมมากกว่าสิทธิประกันสังคม เพราะนอกจากเรื่องการถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน ที่ให้เหมือนกับสิทธิประกันสังคมแล้วสิทธิราชการ และสิทธิบัตรทอง ยังไม่จำกัดจำนวนครั้งในการไปใช้บริการ ปวดฟันเมื่อไหร่ก็ไปรักษาได้ ไม่จำเป็นว่าปวดปีนี้ ต้องไปถอนปีหน้าเพราะสิทธิค่ารักษา 600 บาทหมดไปแล้วกับการรักษาทันตกรรมอื่น ๆ นอกจากนี้ สิทธิราชการยังให้การรักษาโพรงประสาทฟันแท้ สิทธิบัตรทองให้บริการเคลือบฟลูออไรด์ในกลุ่มเสี่ยงสูง และทั้งสองสิทธิให้การรักษาโรคเหงือก และเกลารากฟัน ในขณะที่คนใช้ประกันสังคมหากจะรักษาโรค เหงือกและเกลารากฟัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

เพื่อให้พี่น้องแรงงานมีสิทธิการรักษาทันตกรรมเท่าเทียมกับคนกลุ่มอื่น สำนักงานประกันสังคมต้องมองว่าสุขภาพทางช่องปากเป็นความเจ็บป่วยของร่างกายเช่นเดียวกับความเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ไม่มองว่าทันตกรรมเป็นสิทธิที่แถมให้ผู้ประกันตน และให้ความสำคัญกับการรักษาด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อให้ผู้ประกันตนมีสิทธิการรักษาเรื่องฟันเท่าเทียมกับข้าราชการและคนที่ใช้สิทธิบัตรทอง

หากกรมบัญชีกลางและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สามารถบริหารจัดการงบประมาณให้ครอบคลุมการรักษาด้านทันตกรรมของข้าราชการและคนที่ใช้สิทธิบัตรทองได้ ก็น่าจะไม่เหนือบ่ากว่าแรงสำนักงานประกันสังคมที่จะบริหารจัดการงบประมาณในการดูแลผู้ประกันตนให้มีสุขภาพทางช่องปากที่ดีเท่าเทียมกับคนในสิทธิอื่น ๆ

*ร่วมรณรงค์เพื่อให้ประกันสังคมต้องเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมให้เท่าเทียมกับระบบหลักประกันสุขภาพอื่นได้ที่ https://www.change.org

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น