xs
xsm
sm
md
lg

มทร.ธัญบุรี-สคช. พัฒนามาตรฐาน “รักษาความปลอดภัย”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


มทร.ธัญบุรี ร่วมกับ สคช.จัดทำมาตรฐานวิชาชีพ “รักษาความปลอดภัย” เผยหากทำหลักสูตรมาตรฐานเสร็จสมบูรณ์ สถานศึกษานำไปพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ตรงต่อความต้องการของผู้ประกอบการได้

รศ.ดร.เนตร์พัณณา ยาวิราช ผู้จัดการโครงการวิจัยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพสาขาธุรกิจรักษาความปลอดภัย คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และผู้ประกอบการ จัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาอาชีพธุรกิจรักษาความปลอดภัย โดยให้ข้อมูลว่า ผู้ประกอบการอาชีพรักษาความปลอดภัยในปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 5 แสนคน และคาดว่าจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามความต้องการขององค์การ หน่วยงาน และชุมชนในสังคม การจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจรักษาความปลอดภัยจึงมีความสำคัญ และจำเป็นอย่างยิ่ง ในขณะนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังร่วมกันจัดทำมาตรฐานอาชีพ โดยมีการประชุมคณะทำงานจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาอาชีพธุรกิจรักษาความปลอดภัย ไปแล้ว 5 ครั้ง ระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2558 โดยแบ่งสาขาวิชาชีพเป็น 3 สายงานสำคัญ คือ 1.งานรักษาความปลอดภัยอาคารสถานที่และทรัพย์สิน 2.งานรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เช่น ผู้นำประเทศ หรือบุคคลสำคัญจากต่างประเทศที่เดินทางมายังประเทศไทย หรือที่เดินทางไปต่างประเทศ ผู้มีตำแหน่งสำคัญต่างๆ รวมทั้งดารา ศิลปิน นักฟุตบอล นักร้อง นางงาม นักธุรกิจ ฯลฯ และ 3.งานรักษาความปลอดภัยขนส่งทรัพย์สินมีค่า เช่น รถขนเงินธนาคาร หรือพาหนะในการเคลื่อนย้ายทรัพย์สิน เช่น อัญมณี วัตถุโบราณ หรือของมีค่าต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นทรัพย์สินที่ประมาณค่ามิได้ จึงต้องดูแลเป็นอย่างดี จึงมีการจัดทำมาตรฐานอาชีพ

“ระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนของการช่วยกันจัดทำ ซึ่งเบื้องต้น ได้ข้อสรุปจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นของผู้อยู่ในอาชีพรักษาความปลอดภัย ทุกภาคส่วนเห็นด้วยต่อการจัดทำมาตรฐานอาชีพสาขาธุรกิจรักษาความปลอดภัย เพื่อยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในอาชีพให้มีมาตรฐานเช่นเดียวกับนานาประเทศทั่วโลก เพื่อทำหน้าที่ป้องกัน รักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินให้แก่บุคคล สถานที่ เช่น โรงเรียน โรงงาน บริษัท ห้างร้าน หน่วยงาน สำนักงาน ธนาคาร อุตสาหกรรมต่างๆ และท่าอากาศยาน เป็นต้น และหากทำหลักสูตรมาตรฐานเสร็จสมบูรณ์ สถานศึกษาสามารถนำไปใช้พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ตรงต่อความต้องการของผู้ประกอบการได้ ทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และรองรับการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีที่เกิดจากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้ด้วย” รศ.ดร.เนตร์พัณณา กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น