สพฉ.พร้อมรับมือผู้ป่วยฉุกเฉินช่วงเทศกาลสงกรานต์ ย้ำช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้เร็ว และมีประสิทธิภาพ เพิ่มโอกาสรอดชีวิต แนะประชาชนเมาไม่ขับ และหลีกทางรถพยาบาล ย้ำหากเจ็บป่วยฉุกเฉินเข้ารักษาฟรี
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเท่าตัว เนื่องจากประชาชนเดินทางสัญจรกันมากขึ้น โดยสถิติจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2558 พบว่า มีผู้บาดเจ็บ 27,821 ราย ต้องเข้าพักรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,985 ราย มีผู้เสียชีวิต 405 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ร้อยละ 25 เกิดจากเมาสุราแล้วขับ ส่วนการออกปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 นั้นสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 8 นาที กว่าร้อยละ 70.21 และสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 10 นาที ร้อยละ 79.52 ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงกรานต์นี้ สพฉ.ได้ประสานไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ และสั่งการทั่วประเทศให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1669 ให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว และในปีนี้ได้เพิ่มการแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านแอปพลิเคชัน “EMS1669” เพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะทำให้การแจ้งเหตุแม่นยำ และไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สพฉ.ยังประสานหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินในเตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยจะมีผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ และจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยเฉพาะในวันที่ 12 เม.ย.ที่คาดว่าประชาชนจะเดินทางมากขึ้น
“สิ่งสำคัญที่สุดของการลดอัตราการเจ็บป่วยฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ คือ ผู้ขับขี่ต้องดูแลตัวเองด้วย คือ ดื่มไม่ขับ-ง่วงไม่ขับ โทร.ไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย-สวมหมวกนิรภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรทุกครั้ง นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ คือ หากเห็นรถพยาบาลเปิดเสียงไซเรน และไฟฉุกเฉินควรหลีกทางให้ด้วยเพราะทุกวินาทีมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน”
นพ.อนุชา ยังกล่าวต่อถึงนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิว่า ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาได้ในทุกโรงพยาบาลฟรี ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น ให้ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลตามสิทธิ โดยผู้ป่วยที่เข้าข่ายอาการฉุกเฉินวิกฤตจะอยู่ใน 25 กลุ่มอาการ เช่น มีระดับการรู้สติเปลี่ยนแปลงไป ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ระบบหายใจวิกฤต ระบบเลือดไหลเวียนวิกฤต หรือหากไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายอาการวิกฤตหรือไม่ หากคิดว่าเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทร.แจ้งสายด่วน 1669
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแหงชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเท่าตัว เนื่องจากประชาชนเดินทางสัญจรกันมากขึ้น โดยสถิติจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ปี 2558 พบว่า มีผู้บาดเจ็บ 27,821 ราย ต้องเข้าพักรับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 3,985 ราย มีผู้เสียชีวิต 405 ราย โดยสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ร้อยละ 25 เกิดจากเมาสุราแล้วขับ ส่วนการออกปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 นั้นสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 8 นาที กว่าร้อยละ 70.21 และสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้ภายใน 10 นาที ร้อยละ 79.52 ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการรอดชีวิตมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงกรานต์นี้ สพฉ.ได้ประสานไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ และสั่งการทั่วประเทศให้ตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1669 ให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว และในปีนี้ได้เพิ่มการแจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านแอปพลิเคชัน “EMS1669” เพิ่มเติมด้วย ซึ่งจะทำให้การแจ้งเหตุแม่นยำ และไปช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ สพฉ.ยังประสานหน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินในเตรียมพร้อมบุคลากรทางการแพทย์ฉุกเฉินให้เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยจะมีผู้ปฏิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินปฏิบัติหน้าที่เพิ่มเป็น 2 เท่า โดยเฉพาะในจังหวัดใหญ่ๆ และจังหวัดที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูง โดยเฉพาะในวันที่ 12 เม.ย.ที่คาดว่าประชาชนจะเดินทางมากขึ้น
“สิ่งสำคัญที่สุดของการลดอัตราการเจ็บป่วยฉุกเฉินจากอุบัติเหตุ คือ ผู้ขับขี่ต้องดูแลตัวเองด้วย คือ ดื่มไม่ขับ-ง่วงไม่ขับ โทร.ไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว คาดเข็มขัดนิรภัย-สวมหมวกนิรภัย และปฏิบัติตามกฎจราจรทุกครั้ง นอกจากนี้ สิ่งสำคัญ คือ หากเห็นรถพยาบาลเปิดเสียงไซเรน และไฟฉุกเฉินควรหลีกทางให้ด้วยเพราะทุกวินาทีมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน”
นพ.อนุชา ยังกล่าวต่อถึงนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินรักษาทุกที่ ดีทุกสิทธิว่า ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาได้ในทุกโรงพยาบาลฟรี ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก หลังจากนั้น ให้ส่งต่อผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลตามสิทธิ โดยผู้ป่วยที่เข้าข่ายอาการฉุกเฉินวิกฤตจะอยู่ใน 25 กลุ่มอาการ เช่น มีระดับการรู้สติเปลี่ยนแปลงไป ไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ระบบหายใจวิกฤต ระบบเลือดไหลเวียนวิกฤต หรือหากไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายอาการวิกฤตหรือไม่ หากคิดว่าเจ็บป่วยฉุกเฉินสามารถโทร.แจ้งสายด่วน 1669
ติดตาม Facebook Fanpage ของ "Quality of Life" ได้ที่