สธ. เผย ไทยติดอับดับ 2 อุบัติเหตุโลก อันดับ 1 ในเอเชีย ประสานทุกหน่วยงานคุมเข้มอุบัติเหตุสงกรานต์ ขณะที่ กรมควบคุมความประพฤติ ชง ครม. ส่งคนทำผิด กม. จราจร ทำงานห้องดับจิต
วันนี้ (7 เม.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวง ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.เกรียงเดช จันทรวงศ์ รองผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นายนนท์จิตร เนตรพุกกณะ ผอ.กองกิจการชุมชนและบริการสังคม กรมควบคุมความประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมการรองรับเทศกาลสงกรานต์ 2559 โดย นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีการเกิดอุบัติเหตุเป็นอัน 2 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ย 2.3 คนต่อชั่วโมง บาดเจ็บ 160 คนต่อชั่วโมง เพราะฉะนั้น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิทหาร ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาตรการเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้มากที่สุด คือ ตัวประชาชนเองที่ต้องตระหนักถึงความปลอดภัย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก ก่อนเดินทางต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการเกิดความสูญเสีย หรือพิการของคนในครอบครัวในเทศกาลนี้
นพ.โสภณ กล่าวว่า สธ. เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ทางด้านสุขภาพเอาไว้ อาทิ เตรียมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็วที่สามารถเข้าพื้นที่ได้ภายใน 10 นาที มีการสำรองเลือด เตียง ออกซิเจน ห้องผ่าตัด ห้องไอ.ซี.ยู. ไว้รองรับรวมทั้งประสานสถานกับ สพฉ. เรื่องการเข้าพื้นที่อุบัติเหตุการและการส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางน้ำและทางอากาศ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อย่างเข้มข้นด้วย
ด้าน นายนนท์จิตร กล่าวว่า การลงโทษผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ. จราจร ที่ผ่านมา จะใช้การบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ เช่น ทำความสะอาดถนน ตัดกิ่งไม้ เป็นหลัก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ผู้ประพฤติ พ.ร.บ. จราจร ต้องเข้าไปช่วยบุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ แต่จากการประเมินผลในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมายังพบสถิติผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น มีทั้งผู้ที่กระทำผิดซ้ำ และผู้กระทำผิดรายใหม่ ส่วนมากเป็นกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความหลาบจำ ทางกรมควบคุมความประพฤติจึงได้เสนอมาตรการบำเพ็ญประโยชน์ ด้วยการให้เข้าไปช่วยเหลืองานในห้องดับจิตของโรงพยาบาล โดยเรื่องนี้ได้เสนอเข้า ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเริ่มพิจารณาในกลุ่มที่กระทำความผิด พ.ร.บ. จราจรหลังเทศกาลสงกรานต์ จะสามารถบังคับใช้ได้ต้องให้ศาลสั่งการ จากนั้นผู้กระทำผิดต้องมารับทราบบทลงโทษและทำข้อตกลงร่วมกับกรมควบคุมประพฤติต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (7 เม.ย.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวง ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข พ.ต.อ.เกรียงเดช จันทรวงศ์ รองผู้บังคับการกองแผนงานกิจการพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นายนนท์จิตร เนตรพุกกณะ ผอ.กองกิจการชุมชนและบริการสังคม กรมควบคุมความประพฤติ กระทรวงยุติธรรม ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมการรองรับเทศกาลสงกรานต์ 2559 โดย นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีการเกิดอุบัติเหตุเป็นอัน 2 ของโลก และอันดับ 1 ของเอเชีย โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์พบว่ามีอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ย 2.3 คนต่อชั่วโมง บาดเจ็บ 160 คนต่อชั่วโมง เพราะฉะนั้น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง อาทิทหาร ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ออกมาตรการเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ ผู้ที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้มากที่สุด คือ ตัวประชาชนเองที่ต้องตระหนักถึงความปลอดภัย ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย สวมหมวกกันน็อก ก่อนเดินทางต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการเกิดความสูญเสีย หรือพิการของคนในครอบครัวในเทศกาลนี้
นพ.โสภณ กล่าวว่า สธ. เตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ทางด้านสุขภาพเอาไว้ อาทิ เตรียมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ทีมแพทย์เคลื่อนที่เร็วที่สามารถเข้าพื้นที่ได้ภายใน 10 นาที มีการสำรองเลือด เตียง ออกซิเจน ห้องผ่าตัด ห้องไอ.ซี.ยู. ไว้รองรับรวมทั้งประสานสถานกับ สพฉ. เรื่องการเข้าพื้นที่อุบัติเหตุการและการส่งต่อผู้ป่วยทั้งทางน้ำและทางอากาศ นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้มีการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 อย่างเข้มข้นด้วย
ด้าน นายนนท์จิตร กล่าวว่า การลงโทษผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ. จราจร ที่ผ่านมา จะใช้การบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ เช่น ทำความสะอาดถนน ตัดกิ่งไม้ เป็นหลัก และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ให้ผู้ประพฤติ พ.ร.บ. จราจร ต้องเข้าไปช่วยบุคลากรสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยอุบัติเหตุ แต่จากการประเมินผลในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมายังพบสถิติผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้น มีทั้งผู้ที่กระทำผิดซ้ำ และผู้กระทำผิดรายใหม่ ส่วนมากเป็นกลุ่มวัยรุ่น ดังนั้น เพื่อให้เกิดความหลาบจำ ทางกรมควบคุมความประพฤติจึงได้เสนอมาตรการบำเพ็ญประโยชน์ ด้วยการให้เข้าไปช่วยเหลืองานในห้องดับจิตของโรงพยาบาล โดยเรื่องนี้ได้เสนอเข้า ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเริ่มพิจารณาในกลุ่มที่กระทำความผิด พ.ร.บ. จราจรหลังเทศกาลสงกรานต์ จะสามารถบังคับใช้ได้ต้องให้ศาลสั่งการ จากนั้นผู้กระทำผิดต้องมารับทราบบทลงโทษและทำข้อตกลงร่วมกับกรมควบคุมประพฤติต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
