วธ. ชู “พยัคฆภูมิพิสัย” ต้นแบบชุมชนเข้มแข็ง เล็งถอดบทเรียนให้ สวจ. นำไปสร้างผลงานอย่างเป็นรูปธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานบวงสรวงศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิพิสัย บ้านนาข่า อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ว่า จ.มหาสารคาม จัดทำโครงการส่งเสริมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งส่งเสริมความสำคัญของการให้คนท้องถิ่นเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ และรากเหง้าของตนเอง ควบคู่ไปกับการรักษาวัฒนธรรม จึงนำข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของอำเภอพยัคฆภูมิพิสัยเป็นกรณีตัวอย่าง โดยได้มีการจัดสร้างและบูรณะศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิหลังเดิม ซึ่งมีความชำรุดทรุดโทรมให้มีความสง่างามเช่นเดิม เพื่อเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวใจประชาชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างคนในชุมชนกับภาครัฐและเอกชน ในการรักษาประวัติศาสตร์ และดูแลมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการรักษาภูมิปัญญาสู่การสร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน ทั้งการทอผ้าไหม ผ้าขาวม้า การปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ เครื่องจักสาน จากนั้นมีการนำผลิตภัณฑ์ชุมชนไปจำหน่ายทั้งในชุมชน และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังไปจำหน่ายต่างประเทศอีกด้วย จากนี้ วธ. จะนำต้นแบบบางส่วนที่ประสบผลสัมฤทธิ์ไปถอดบทเรียนผลักดันให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ทั่วประเทศ สร้างผลงานในเชิงประจักษ์ และนำมาเป็นตัวชี้วัดการทำงานในเชิงพื้นที่ต่อไป
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า หลังจากการบวงสรวงศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิพิสัยแล้ว ชาวมหาสารคาม มีความเห็นพ้องกัน ว่า ควรจัดงานบูรณาการประเพณีท้องถิ่นให้ครบถ้วนต่อเนื่องไปช่วงระหว่างวันที่ 6 - 8 มี.ค. นี้ ได้แก่ การจัดงานประเพณีบุญข้าวจี่ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษของคนในท้องถิ่น งานทำบุญมหาชาติ หรือ บุญผะเหวด ทั้งยังจะขยายความร่วมมือบูรณาการทำงานวัฒนธรรมกับกลุ่มจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานบวงสรวงศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิพิสัย บ้านนาข่า อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ว่า จ.มหาสารคาม จัดทำโครงการส่งเสริมประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาล โดยมุ่งส่งเสริมความสำคัญของการให้คนท้องถิ่นเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ และรากเหง้าของตนเอง ควบคู่ไปกับการรักษาวัฒนธรรม จึงนำข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์การตั้งถิ่นฐานของอำเภอพยัคฆภูมิพิสัยเป็นกรณีตัวอย่าง โดยได้มีการจัดสร้างและบูรณะศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิหลังเดิม ซึ่งมีความชำรุดทรุดโทรมให้มีความสง่างามเช่นเดิม เพื่อเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวใจประชาชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ยังเป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างคนในชุมชนกับภาครัฐและเอกชน ในการรักษาประวัติศาสตร์ และดูแลมรดกวัฒนธรรมท้องถิ่น ด้วยการรักษาภูมิปัญญาสู่การสร้างรายได้ชุมชนอย่างยั่งยืน ทั้งการทอผ้าไหม ผ้าขาวม้า การปลูกข้าวไรซ์เบอรี่ เครื่องจักสาน จากนั้นมีการนำผลิตภัณฑ์ชุมชนไปจำหน่ายทั้งในชุมชน และต่างจังหวัด นอกจากนี้ ยังไปจำหน่ายต่างประเทศอีกด้วย จากนี้ วธ. จะนำต้นแบบบางส่วนที่ประสบผลสัมฤทธิ์ไปถอดบทเรียนผลักดันให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ทั่วประเทศ สร้างผลงานในเชิงประจักษ์ และนำมาเป็นตัวชี้วัดการทำงานในเชิงพื้นที่ต่อไป
นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า หลังจากการบวงสรวงศาลหลักเมืองพยัคฆภูมิพิสัยแล้ว ชาวมหาสารคาม มีความเห็นพ้องกัน ว่า ควรจัดงานบูรณาการประเพณีท้องถิ่นให้ครบถ้วนต่อเนื่องไปช่วงระหว่างวันที่ 6 - 8 มี.ค. นี้ ได้แก่ การจัดงานประเพณีบุญข้าวจี่ การทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้บรรพบุรุษของคนในท้องถิ่น งานทำบุญมหาชาติ หรือ บุญผะเหวด ทั้งยังจะขยายความร่วมมือบูรณาการทำงานวัฒนธรรมกับกลุ่มจังหวัดใกล้เคียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสร้างชุมชนให้เข้มแข็งต่อไป
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
