คกก. ทันตแพทยสภา มีมติเอกฉันท์กล่าวโทษ “ดลฤดี” เตรียมเชิญผู้ค้ำประกันให้ข้อมูลในเดือนนี้ ชี้ หากผิดจรรยาบรรณ สร้างความเสื่อมเสียวิชาชีพ จ่อถอดสมาชิกทันตแพทยสภา เพิกถอนใบอนุญาต แต่ย้ำมีผลแค่ในประเทศไทย พร้อมทำหนังสือถึงฮาร์วาร์ดรับทราบเรื่องจรรยาบรรณ
วันนี้ (11 ก.พ.) ในการประชุมคณะกรรมการทันตแพทยสภา ได้มีการพิจารณาวาระพิเศษกรณี ทพญ.ดลฤดี จำลองราษฎร์ อดีตอาจารย์คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่กระทำผิดสัญญาไม่ยอมชดใช้ทุน จนเป็นเหตุให้ผู้ค้ำประกันจำนวน 4 คน ต้องชดใช้แทนรวมเป็นจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งล่าสุด มหาวิทยาลัยมหิดลและสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ได้ยื่นฟ้องให้เป็นบุคคลล้มละลายแล้วนั้น
ทพ.ธรณินทร์ จรัสจรุงเกียรติ นายกทันตแพทยสภา กล่าวภายหลังการประชุม ว่า เรื่องดังกล่าวไม่มีผู้ร้องเรียน แต่ด้วยที่ปรากฏเป็นข่าวและสังคมให้ความสนใจ คณะกรรมการทั้งคณะมีมติเอกฉันท์ในการกล่าวโทษ และจะนำเข้าสู่การพิจารณาจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยจะส่งเรื่องให้แก่ คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรมในการสืบสวนสอบสวนต่อไป โดยคณะอนุฯ จะรวบรวมข้อมูลและมีหนังสือเรียกผู้เสียหาย คือ ผู้ค้ำประกันทั้ง 4 คน และหากอนุกรรมการเห็นว่ามีความผิดมีมูลก็จะดำเนินการส่งต่อมายังคณะกรรมการทันตแพทยสภาพิจารณาตัดสินโทษ ซึ่งมี 4 ระดับ คือ ว่ากล่าวตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งร้ายแรงสุด และหากพิสูจน์ทราบในขั้นสุดท้าย และมีมติของคณะกรรมการทันตแพทยสภา จนเห็นว่า ทพญ.ดลฤดี ทำผิดข้อบังคับทันตแพทยสภาว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพทันตกรรม พ.ศ. 2538 ในกรณีสร้างความเสื่อมเสีย และไม่ดำรงตนสร้างความถูกต้องในสังคม ไม่เคารพกฎหมาย จนทำให้เสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ ตรงนี้จะทำให้มีโอกาสขาดการเป็นสมาชิกภาพของทันตแพทยสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีถูกฟ้องล้มละลาย ถือว่าสิ้นสภาพสมาชิกด้วยหรือไม่ ทพ.ธรณินทร์ กล่าวว่า หากศาลตัดสินล้มละลายก็จะมีน้ำหนักมากขึ้นในการนำมาพิจารณาให้สิ้นสภาพความเป็นสมาชิกของทันตแพทยสภา และประกอบกับมีเรื่องการสร้างความเสื่อมเสียก็ยิ่งมีน้ำหนักสูง แต่ขณะนี้ศาลยังไม่ตัดสิน จึงต้องพิจารณาตามขั้นตอนไปก่อน โดยเบื้องต้นทางอนุกรรมการจะทำหนังสือถึงผู้เสียหายที่ไปค้ำประกัน รวมทั้งผู้ถูกร้อง คือ ทพญ.ดลฤดี แต่ขั้นตอนต้องส่งไปตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ คือ ในประเทศไทย แต่หากติดต่อไม่ได้ ก็จะประสานต่อไป แต่หากผู้ถูกร้องไม่มาก็ถือว่าสละสิทธิ ทางอนุกรรมการก็จะพิจารณาตามขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลจะดำเนินการภายในเดือนนี้
“แม้สุดท้ายหากมีการเพิกถอนใบอนุญาต ก็จะมีผลในประเทศไทย เพราะ ทพญ.ดลฤดี เป็นพลเมืองอเมริกัน แต่ในเรื่องจรรยาบรรณมีผลทุกประเทศ ดังนั้น หากอนุกรรมการสอบสวนข้อมูลไปสักระยะหนึ่ง คณะกรรมการจะทำหนังสือไปยังมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เพื่อแจ้งให้ทราบถึงกรณีจรรยาบรรณ เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเข้มงวดเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพมาก เพียงแต่ที่ผ่านมาตามข่าวระบุว่า ฮาร์วาร์ดบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เข้าใจว่า น่าจะเป็นเรื่องค้ำประกัน แต่กรณีจรรยาบรรณถือว่าสำคัญมาก” นายกทันตแพทยสภา กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่