สธ. ติดตามคนสัมผัสเสี่ยงสูง “ผู้ป่วยเมอร์ส” ครบ 40 คน ตรวจร่างกาย ตรวจห้องปฏิบัติการพบสุขภาพดี ไม่พบเชื้อ
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของชายชาวโอมาน อายุ 71 ปี ที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ซึ่งขณะนี้ยังรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ว่า วันนี้ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ อาการโดยรวมคงที่ หายใจเร็ว ยังต้องใช้ออกซิเจน พูดคุยได้ ลุกเดินได้ รับประทานอาหารได้ ส่วนการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถติดตามได้ครบทั้ง 40 คนแล้ว แต่มี 14 คน ที่เดินทางออกนอกประเทศ จึงยังอยู่ในสถานที่สังเกตรวม 26 คน ทุกคนได้รับการตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าสบายดี
“ความสำเร็จในการติดตาม เกิดจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักอนามัย กทม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น และที่สำคัญ คือ ต้องขอขอบคุณในความร่วมมือจากตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเองที่ยอมละทิ้งภาระ หน้าที่ เข้าสู่ระบบการควบคุมป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดในประเทศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบเฝ้าระวังป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข และร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยยึดมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคเวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด หากจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วย และถ้ากลับประเทศไทยภายใน 14 วัน หากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ให้ไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลทันที หากมีข้อสงสัยข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” อธิบดี คร. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของชายชาวโอมาน อายุ 71 ปี ที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือ โรคเมอร์ส ซึ่งขณะนี้ยังรักษาอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ว่า วันนี้ผู้ป่วยมีไข้ต่ำ ๆ อาการโดยรวมคงที่ หายใจเร็ว ยังต้องใช้ออกซิเจน พูดคุยได้ ลุกเดินได้ รับประทานอาหารได้ ส่วนการติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถติดตามได้ครบทั้ง 40 คนแล้ว แต่มี 14 คน ที่เดินทางออกนอกประเทศ จึงยังอยู่ในสถานที่สังเกตรวม 26 คน ทุกคนได้รับการตรวจร่างกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบว่าสบายดี
“ความสำเร็จในการติดตาม เกิดจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักอนามัย กทม. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ เป็นต้น และที่สำคัญ คือ ต้องขอขอบคุณในความร่วมมือจากตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเองที่ยอมละทิ้งภาระ หน้าที่ เข้าสู่ระบบการควบคุมป้องกันไม่ให้โรคแพร่ระบาดในประเทศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในระบบเฝ้าระวังป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข และร่วมมือในการปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยยึดมาตรการ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยป้องกันโรคเวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการทางเดินหายใจ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศที่มีการระบาด หากจำเป็นต้องเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาด อย่าคลุกคลีกับผู้ป่วย และถ้ากลับประเทศไทยภายใน 14 วัน หากมีอาการไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ ให้ไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลทันที หากมีข้อสงสัยข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422” อธิบดี คร. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่