ทุกวันนี้มีโรคต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งโรคบางชนิดก็เป็นโรคระบาดที่ติดต่อร้ายแรง จนทำให้เรารู้สึกหวาดกลัวว่าจะเกิดขึ้นกับตัวของเราเอง ดังนั้น การรู้จักวิธีการดูแลรักษาตัวเองให้ปลอดภัยปราศจากโรคจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมาก ผู้เขียนจึงขอเสนอแนะวิธีการดูแลสุขภาพให้ปราศจากโรคภัยอย่างง่าย ๆ แต่ได้ผลแน่นอนดังนี้
1. ล้างมือให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค ผู้เขียนเชื่อว่าเราได้ยินคุณพ่อคุณแม่และคุณครูสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า ให้เราล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังการใช้ห้องน้ำ หรือเมื่อกลับมจากนอกบ้านก็ให้รีบล้างมือเป็นอย่างแรก เพราะมือเป็นอวัยวะที่เราใช้หยิบจับสัมผัสสิ่งต่าง ๆ จึงง่ายต่อการสัมผัสเชื้อโรคซึ่งทำให้เราเป็นโรคต่าง ๆ ได้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ท่านต้องล้างมือโดยใช้สบู่ หรือเจลล้างมือก่อนและหลังพบคนไข้ในแต่ละวันโดยเฉลี่ยประมาณวันละ 50 ถึง 60 ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาล้างมือประมาณ 20 วินาที หรือคำนวณจากการร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 ครั้ง หลังจากนั้น ก็จะใช้กระดาษเช็ดมือให้แห้งและใช้กระดาษเช็ดมือกดชักโครกและเปิดประตูห้องน้ำ โดยที่มือของท่านจะไม่สัมผัสกับปุ่มชักโครกหรือประตูห้องน้ำเลย
ถึงแม้ว่าเราจะทำความสะอาดมืออย่างไรก็ตาม แต่มือก็ยังเป็นศูนย์รวมของเชื้อโรคอยู่นั่นเอง ดังนั้น ให้เราพยายามไม่ใช้มือจับหน้า ปาก และจมูก และต้องล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งให้เป็นนิสัย
2. ทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้และโต๊ะทำงานให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาทำความสะอาด เพราะแหล่งที่สะสมเชื้อโรคอย่างดีก็คือแป้นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ลูกบิดประตู ปากกาหรืออุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานต่าง ๆ
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายทำให้สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาวะที่ดีและปราศจากโรคร้ายได้ ดังนั้น เราควรจะออกกำลังกายทุกวันๆละ อย่างน้อยวันละ 15 - 30 นาที
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเราควรจะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ
หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้แก่ ไข่ นม เนื้อสัตว์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน ซึ่งให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย
หมู่ที่ 3 เกลือแร่ ได้แก่ ผักชนิดต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทั้งมีแรงต้านทานเชื้อโรค และอาหารหมู่นี้จะมีกากอาหารที่ช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร
หมู่ที่ 4 วิตามิน ได้แก่ ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายและผิวพรรณให้สดชื่นแจ่มใส อีกทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
หมู่ที่ 5 ไขมันที่ได้จากพืชและสัตว์ซึ่งให้พลังงานกับร่างกาย อีกทั้งทำให้เกิดภูมิคุ้มกันให้กับอวัยวะสำคัญของร่างกายอีกด้วย ดังนั้นเราควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง5หมู่เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
5. พักผ่อนเมื่อรู้ว่าเป็นโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเราเองมีความรู้สึกว่าเราได้รับเชื้อโรคเข้ามาในร่างกายและไม่สบายเราควรหยุดงานและพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อรักษาตัวให้หายก่อน ไม่ควรไปแพร่เชื้อโรคให้แก่ผู้อื่น หรืออีกทางหนึ่งคือควรใช้หน้ากากอนามัย ป้องกันโรคไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น
6. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี การฉีดวัคซีนจะเป็นการช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น แม้ว่านั่นจะไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันโรคได้ 100% แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ในระดับหนึ่ง
เราทุกคนควรให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เรามีอายุยืนยาว ซึ่งทั้ง6ข้อที่ผู้เขียนได้นำเสนอมานั้นเป็นวิธีที่จะใช้ดูแลสุขภาพร่างกายได้อย่างดีและปฏิบัติได้ไม่ยากเลย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
1. ล้างมือให้สะอาดปราศจากเชื้อโรค ผู้เขียนเชื่อว่าเราได้ยินคุณพ่อคุณแม่และคุณครูสอนมาตั้งแต่เด็ก ๆ ว่า ให้เราล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหาร หลังการใช้ห้องน้ำ หรือเมื่อกลับมจากนอกบ้านก็ให้รีบล้างมือเป็นอย่างแรก เพราะมือเป็นอวัยวะที่เราใช้หยิบจับสัมผัสสิ่งต่าง ๆ จึงง่ายต่อการสัมผัสเชื้อโรคซึ่งทำให้เราเป็นโรคต่าง ๆ ได้
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ท่านต้องล้างมือโดยใช้สบู่ หรือเจลล้างมือก่อนและหลังพบคนไข้ในแต่ละวันโดยเฉลี่ยประมาณวันละ 50 ถึง 60 ครั้ง แต่ละครั้งใช้เวลาล้างมือประมาณ 20 วินาที หรือคำนวณจากการร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ 2 ครั้ง หลังจากนั้น ก็จะใช้กระดาษเช็ดมือให้แห้งและใช้กระดาษเช็ดมือกดชักโครกและเปิดประตูห้องน้ำ โดยที่มือของท่านจะไม่สัมผัสกับปุ่มชักโครกหรือประตูห้องน้ำเลย
ถึงแม้ว่าเราจะทำความสะอาดมืออย่างไรก็ตาม แต่มือก็ยังเป็นศูนย์รวมของเชื้อโรคอยู่นั่นเอง ดังนั้น ให้เราพยายามไม่ใช้มือจับหน้า ปาก และจมูก และต้องล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้งให้เป็นนิสัย
2. ทำความสะอาดเครื่องมือเครื่องใช้และโต๊ะทำงานให้สะอาดอยู่เสมอ ด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาทำความสะอาด เพราะแหล่งที่สะสมเชื้อโรคอย่างดีก็คือแป้นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ ลูกบิดประตู ปากกาหรืออุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานต่าง ๆ
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายทำให้สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจอยู่ในสภาวะที่ดีและปราศจากโรคร้ายได้ ดังนั้น เราควรจะออกกำลังกายทุกวันๆละ อย่างน้อยวันละ 15 - 30 นาที
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเราควรจะรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ
หมู่ที่ 1 โปรตีน ได้แก่ ไข่ นม เนื้อสัตว์ ซึ่งช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ อีกทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ได้แก่ ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน ซึ่งให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย
หมู่ที่ 3 เกลือแร่ ได้แก่ ผักชนิดต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้อวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติ ทั้งมีแรงต้านทานเชื้อโรค และอาหารหมู่นี้จะมีกากอาหารที่ช่วยในเรื่องระบบการย่อยอาหาร
หมู่ที่ 4 วิตามิน ได้แก่ ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายและผิวพรรณให้สดชื่นแจ่มใส อีกทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี
หมู่ที่ 5 ไขมันที่ได้จากพืชและสัตว์ซึ่งให้พลังงานกับร่างกาย อีกทั้งทำให้เกิดภูมิคุ้มกันให้กับอวัยวะสำคัญของร่างกายอีกด้วย ดังนั้นเราควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง5หมู่เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
5. พักผ่อนเมื่อรู้ว่าเป็นโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเราเองมีความรู้สึกว่าเราได้รับเชื้อโรคเข้ามาในร่างกายและไม่สบายเราควรหยุดงานและพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อรักษาตัวให้หายก่อน ไม่ควรไปแพร่เชื้อโรคให้แก่ผู้อื่น หรืออีกทางหนึ่งคือควรใช้หน้ากากอนามัย ป้องกันโรคไม่ให้แพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น
6. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี การฉีดวัคซีนจะเป็นการช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานมากขึ้น แม้ว่านั่นจะไม่ได้หมายความว่าจะป้องกันโรคได้ 100% แต่การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่จะช่วยป้องกันการเกิดโรคได้ในระดับหนึ่ง
เราทุกคนควรให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพร่างกายให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรงอยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้เรามีอายุยืนยาว ซึ่งทั้ง6ข้อที่ผู้เขียนได้นำเสนอมานั้นเป็นวิธีที่จะใช้ดูแลสุขภาพร่างกายได้อย่างดีและปฏิบัติได้ไม่ยากเลย
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่