สธ.ยันออกระเบียบฯรับผิดทางละเมิด "ยึด อายัด ขายทอดตลาดทรัพย์" เจ้าหน้าที่ทำผิดทุจริต ประมาทเลินเล่อร้ายแรง ย้ำไม่เกี่ยวเรื่องทางการแพทย์
วันนี้ (17 ธ.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีการออกระเบียบสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการใช้มาตรการบังคับทางปกครองสำหรับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2558 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2558 โดยระบุถึงวิธีในการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินเจ้าหน้าที่ สธ. ว่า ระเบียบดังกล่าวจะเน้นมุ่งใช้ปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดในเรื่องการทุจริต เช่น ยักยอกเงิน หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง เช่น กรณีเมาแล้วขับรถชน และใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ถูกตัดสินว่าผิด แล้วไม่ชดใช้เงินต่อหน่วยงาน จากความคุ้มครองของพ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ส่วนที่มีข้อกังวลว่านิยามของคำว่าประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจะหมายรวมถึงการดำเนินการทางการแพทย์ด้วยนั้น ขอยืนยันว่าระเบียบนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องทางการแพทย์ หรือการฟ้องร้องบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีกฎหมายอื่นที่ใช้บังคับและสามารถฟ้องศาลได้อยู่แล้ว
"ตั้งแต่ปี 2540 ถึงปัจจุบันมีคดีที่เกี่ยวของราว 21 คดี เฉลี่ยปีละประมาณ 1 คดีที่ สธ.จะต้องให้เจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดกรณีดังกล่าวชดใช้เงิน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และกรมที่ดินก็มีระเบียบเช่นนี้ โดยจะมีคณะกรรมการ 2 ชุด ประกอบด้วย คณะกรรมการสืบ ยึด และอายัดทรัพย์และคณะกรรมการขายทอดตลาดแล้วนำเงินมาชดใช้ อย่างไรก็ตาม หากผู้ถูกยึดทรัพย์เห็นว่าไม่ถูกต้องก็สามารถอุทธรณ์มายังปลัดสธ.หรือฟ้องศาลปกครองได้ ทั้งนี้ หากสธ.ไม่ดำเนินการออกระเบียบฯก็จะมีคดีที่หมดอายุความและทำให้กลายเป็นหนี้สูญ ก็จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา" ปลัด สธ. กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่