ซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ สมเด็จพระสังฆราช ตามเส้นทางจริงครั้งสุดท้าย จากวัดบวรฯ-วัดเทพศิรินทราวาส สง่างามสมพระเกียรติ ชวนประชาชนสวมชุดดำ 16 ธ.ค.
วันนี้ (10 ธ.ค.) ที่ถนนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่ทหาร สำนักพระราชวัง กรมการศาสนา (ศน.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศิษยานุศิษย์ ร่วมซักซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกเสมือนจริง เป็นครั้งสุดท้ายจำนวนกว่า 1,400 คน โดยริ้วขบวนได้เคลื่อนออกจากวัดบวรนิเวศวิหารตามหมายกำหนดการจริงในเวลา 08.00 น. ประกอบด้วย ริ้วขบวนที่ 1 ริ้วขบวนเชิญพระศพสู่พระเมรุ และริ้วขบวนที่ 2 ริ้วขบวนเชิญพระศพเวียนรอบพระเมรุ เคลื่อนไปตามถนนพระสุเมรุ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ไปตามถนนหลานหลวง และหยุดพักบริเวณหน้ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามถนนกรุงเกษม เลี้ยวขวาถนนหลวงเข้าสู่สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส โดยประชาชนต่างให้ความสนใจ ร่วมชมริ้วขบวนเป็นจำนวนมาก
พลอากาศเอกชูชาติ บุญชัย รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก กล่าวว่า ภาพการซักซ้อมมีความเรียบร้อยกว่าร้อยละ 98 โดยได้ปรับระดับเสียงของลำโพงในบางจุดที่เกิดปัญหาในการซักซ้อมครั้งที่ผ่านมา ทำให้มีจังหวะการเดินมีความพร้อมเพียงทั้งหมด โดยในวันงาน อยากขอให้ประชาชนให้อยู่บนทางเท้าอย่าลงมาบนพื้นถนนในช่วงเวลาที่ริ้วขบวนเคลื่อนผ่าน พร้อมขอให้นั่งลงกับพื้นด้วยความเรียบร้อยเพื่อเป็นการส่งเสด็จอย่างสมพระเกียรติ
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมจัดพระราชพิธีทุกด้านแล้ว พร้อมเชิญชวนหน่วยงานทุกภาคส่วนแต่งกายไว้ทุกข์ ขณะที่ประชาชนสามารถร่วมแต่งกายไว้ทุกข์ชุดสีดำเพื่อแสดงความอาลัยส่งเสด็จในวันที่ 16 ธ.ค. และร่วมถวายดอกไม้จันทน์ยังวัด 48 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และที่วัดอำเภอละ 1 แห่งทั่วประเทศ
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ในฐานะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กล่าวว่า การซักซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศครั้งมีถือว่ามีความยิ่งใหญ่แต่เรียบง่ายอย่างสมพระเกียรติ ทั้งในส่วนของการจัดเตรียมพร้อมที่พระเมรุ และพื้นที่รองรับผู้เข้าร่วมงานมีความพร้อมเกือบทุกด้านแล้ว โดยจะมีการตกแต่งสถานที่และพระเมรุให้มีความสวยงามในวันที่ 15 ธ.ค.นี้ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังได้ขอความร่วมมือประชาชนชาวไทยร่วมไว้ทุกข์ในวันที่ 16 ธ.ค.ด้วย ทั้งนี้ภายในบริเวณพื้นที่จัดพระราชพิธีจะไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีบัตรเข้ามาในพิธีได้ โดยจะมีการจัดซุ้มวางดอกไม้จันทน์ที่บริเวณสนามหญ้าพระอุโบสถวัดเทพศิรินทราวาส ส่วนผู้ร่วมงานที่มีบัตรจะอนุญาตให้เข้ามาในพระราชพิธีโดยขอความร่วมมือในการเข้างานก่อนเวลา 15.00 น. เพื่อเตรียมพร้อมในการรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศานุวงศ์ซึ่งจะเสด็จมายังบริเวณงานในเวลา 16.30 น.
ท่านผู้หญิงบุตรี กล่าวว่า สำหรับประชาชนที่มาร่วมวางดอกไม้จันทน์ยังพระเมรุจำลอง บริเวณสนามหญ้า ด้านข้างพระอุโบสถแล้ว ในเข้าสู่ช่วงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ จะมีลูกเสือจากโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเชิญดอกไม้จันทน์ดังกล่าวขึ้นไปวางยังพระเมรุ ทั้งนี้ จะมีการเปิดให้วางดอกไม้จันทน์ ที่จุดวัดเทพศิรินทราวาส และวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วง 2 คือ ตั้งแต่เวลา 12.30 น. - 15.00 น. และช่วง 18.00 - 19.00 น.
ด้านนายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดี ศน. กล่าวว่า ศน. ได้จัดพิมพ์หนังสือ “พระของประชาชน : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก” ถวายพระกุศลเป็นเครื่องสังเค็ด ที่รวบรวมพระจริยวัตรสมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งหลักธรรมคำสอนพระพุทธองค์ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราช ทรงนำไปเผยแผ่และคำสอนและธรรมวรคติของพระองค์เองที่ได้ตรัสไว้ในสถานที่และโอกาสต่างๆ จัดพิมพ์ทั้งหมดเป็น 8 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษ เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย เวียดนาม และเนปาล นอกจากนี้ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ ศน.ดูแลและปฏิบัติพิธีสงฆ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลแด่พระสังฆราช พระมหานายก และประมุขสงฆ์โลก จำนวน 18 รูป ที่เข้าร่วมงานพระราชพิธี ในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 10.30 น.
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่