ซ้อมใหญ่ริ้วขบวนงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช เสมือนจริงครั้งที่ 2 ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ให้สวนนงนุชปรับภูมิทัศน์พระเมรุ
วานนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00น. ถนนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่ทหาร สำนักพระราชวัง กรมการศาสนา(ศน.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศิษยานุศิษย์ ร่วมจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการซ้อมเสมือนจริง โดยมีผู้เข้าร่วมริ้วขบวนกว่า 1,400 คน
เมื่อเวลา 07.45น. ริ้วขบวนได้เคลื่อนขบวนจากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปยังวัดเทพศิรินทราวาส เวลา10.00น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปรับริ้วขบวนสู่ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศพระศพเวียนรอบพระเมรุ 3 รอบ เป็นอันเสร็จการซ้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการซ้อมริ้วขบวนฯ มีประชาชนชาวไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจอย่างมาก จะพบว่าตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนผ่านจะมีประชาชนยืนอยู่ริมฟุตบาธถ่ายภาพริ้วขบวนตลอดเส้นทาง
พล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า การซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศฯครั้งที่ 2 ในพื้นที่จริงมีความเรียบร้อยกว่าร้อยละ 95 ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกำลังพลทหาร
ส่วนปัญหาความสูงของราชรถเชิญพระโกศพระศพช่วงผ่านสะพานลอย 3 แห่ง ทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแก้ไขระดับถนนให้ราชรถผ่านได้โดยสะดวกแล้ว ทั้งนี้ จะมีการซ้อมริ้วขบวนอีกครั้งวันที่ 10 ธ.ค.นี้
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ในฐานะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก กล่าวว่า ในภาพรวมการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบเกือบ 100% โดยในส่วนของพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งใช้เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราชนั้น ได้มอบหมายให้สวนนงนุชเข้ามาปรับภูมิทัศน์ โดยนำต้นไม้ ไม้ดอกมาประดับสถานที่ และจัดทำกระถางลายคราม ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ "ญสส" ของสมเด็จพระสังฆราชเข้ามาประดับในบริเวณพระเมรุด้วย
สำหรับงานพระราชพิธีในวันที่16 ธ.ค.จะมีพระบรมวงศานุวงศ์ สมเด็จพระราชาคณะ ทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้าราชการระดับสูง ศิษยานุศิษย์ เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน สำหรับพระนำอ่านพระอภิธรรมในริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพนั้น ได้นิมนต์สมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุด คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์นั่งราชรถพระนำอ่านพระอภิธรรมในริ้วขบวนที่ 1และเสลี่ยงพระนำอ่านพระอภิธรรมในขบวนที่ 2
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กรรมการในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ กล่าวว่า ศน. ได้กราบอาราธนานิมนต์ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะมีอาวุโสสูงสุด ขึ้นราชรถและเสลี่ยงพระนำอ่านพระอภิธรรมในพระราชพิธีดังกล่าวแล้ว ซึ่ง ศน.ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี พร้อมกันนี้ ศน.ยังได้รับมอบหมายให้เชิญผู้นำ 5 ศาสนาเข้าร่วมพระราชพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งได้ดำเนินการเชิญผู้นำ 5 ศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า พศ.ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เชิญผู้นำศาสนาจาก 14 ประเทศเข้าร่วมในพระราชพิธีดังกล่าว เช่น ผู้นำศาสนาจากประเทศกัมพูชา ศรีลังกา ญี่ปุ่น ลาว จีน รวมถึงนิมนต์พระธรรมทูตสายต่างประเทศ จำนวน 41 รูป และพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับมหาเถรสมาคม(มส.) สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จากวัดทั่วประเทศจำนวน 547 รูป เข้าร่วมพระราชพิธีด้วย ซึ่ง พศ.รับหน้าที่ดูและพระสงฆ์และผู้นำศาสนาที่เข้าร่วมพิธีทั้งหมด.
วานนี้ (7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 07.00น. ถนนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนิเวศวิหาร เจ้าหน้าที่ทหาร สำนักพระราชวัง กรมการศาสนา(ศน.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และศิษยานุศิษย์ ร่วมจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในการซ้อมเสมือนจริง โดยมีผู้เข้าร่วมริ้วขบวนกว่า 1,400 คน
เมื่อเวลา 07.45น. ริ้วขบวนได้เคลื่อนขบวนจากวัดบวรนิเวศวิหาร ไปยังวัดเทพศิรินทราวาส เวลา10.00น. จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปรับริ้วขบวนสู่ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศพระศพเวียนรอบพระเมรุ 3 รอบ เป็นอันเสร็จการซ้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการซ้อมริ้วขบวนฯ มีประชาชนชาวไทยและต่างชาติ ให้ความสนใจอย่างมาก จะพบว่าตลอดเส้นทางที่ริ้วขบวนผ่านจะมีประชาชนยืนอยู่ริมฟุตบาธถ่ายภาพริ้วขบวนตลอดเส้นทาง
พล.อ.อ.ชูชาติ บุญชัย รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดริ้วขบวนพระอิสริยยศพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า การซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศฯครั้งที่ 2 ในพื้นที่จริงมีความเรียบร้อยกว่าร้อยละ 95 ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกำลังพลทหาร
ส่วนปัญหาความสูงของราชรถเชิญพระโกศพระศพช่วงผ่านสะพานลอย 3 แห่ง ทางกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการแก้ไขระดับถนนให้ราชรถผ่านได้โดยสะดวกแล้ว ทั้งนี้ จะมีการซ้อมริ้วขบวนอีกครั้งวันที่ 10 ธ.ค.นี้
ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองราชเลขาธิการ ในฐานะกรรมการมูลนิธิสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก กล่าวว่า ในภาพรวมการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าสมบูรณ์แบบเกือบ 100% โดยในส่วนของพระเมรุ วัดเทพศิรินทราวาส ซึ่งใช้เป็นสถานที่พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระสังฆราชนั้น ได้มอบหมายให้สวนนงนุชเข้ามาปรับภูมิทัศน์ โดยนำต้นไม้ ไม้ดอกมาประดับสถานที่ และจัดทำกระถางลายคราม ซึ่งมีตราสัญลักษณ์ "ญสส" ของสมเด็จพระสังฆราชเข้ามาประดับในบริเวณพระเมรุด้วย
สำหรับงานพระราชพิธีในวันที่16 ธ.ค.จะมีพระบรมวงศานุวงศ์ สมเด็จพระราชาคณะ ทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และข้าราชการระดับสูง ศิษยานุศิษย์ เข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน สำหรับพระนำอ่านพระอภิธรรมในริ้วขบวนพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพนั้น ได้นิมนต์สมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุด คือ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์(ช่วง วรปุญฺโญ) ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์นั่งราชรถพระนำอ่านพระอภิธรรมในริ้วขบวนที่ 1และเสลี่ยงพระนำอ่านพระอภิธรรมในขบวนที่ 2
นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กรรมการในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ กล่าวว่า ศน. ได้กราบอาราธนานิมนต์ สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสมเด็จพระราชาคณะมีอาวุโสสูงสุด ขึ้นราชรถและเสลี่ยงพระนำอ่านพระอภิธรรมในพระราชพิธีดังกล่าวแล้ว ซึ่ง ศน.ยึดถือธรรมเนียมปฏิบัติตามโบราณราชประเพณี พร้อมกันนี้ ศน.ยังได้รับมอบหมายให้เชิญผู้นำ 5 ศาสนาเข้าร่วมพระราชพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งได้ดำเนินการเชิญผู้นำ 5 ศาสนาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า พศ.ร่วมกับ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เชิญผู้นำศาสนาจาก 14 ประเทศเข้าร่วมในพระราชพิธีดังกล่าว เช่น ผู้นำศาสนาจากประเทศกัมพูชา ศรีลังกา ญี่ปุ่น ลาว จีน รวมถึงนิมนต์พระธรรมทูตสายต่างประเทศ จำนวน 41 รูป และพระสังฆาธิการตั้งแต่ระดับมหาเถรสมาคม(มส.) สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จากวัดทั่วประเทศจำนวน 547 รูป เข้าร่วมพระราชพิธีด้วย ซึ่ง พศ.รับหน้าที่ดูและพระสงฆ์และผู้นำศาสนาที่เข้าร่วมพิธีทั้งหมด.