แพทย์เตือนเจออุบัติเหตุระหว่าง "ปั่นเพื่อพ่อ" อย่าหยุดปั่นกลางคัน เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุซ้ำ แนะเลี่ยงเข้าข้างทางแจ้งเหตุ รอทีมแพทย์เข้าช่วยเหลือ ชี้ล้มด้านข้างเจ็บน้อยกว่าล้มคมำ
นพ.เอกกิตติ์ สุรการ ผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุกรุงเทพ รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า อุบัติเหตุจากการปั่นจักรยานจะเกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ คือ 1.การล้มข้างแล้วไถลไปกับพื้น เรียกว่า โลว์ไซด์ อาการบาดเจ็บจะไม่รุนแรงมาก เพราะการกระแทกเกิดขึ้นที่ด้านข้าง ไม่กระทบต่อโครงสร้างหลักของร่างกายอย่างกระดูกสันหลังหรืออวัยวะภายใน อาจมีบาดแผลถลอกร่วมด้วย และ 2.การล้มคมำไปด้านหน้า เรียกว่า ไฮไซด์ เกิดจากการมีสิ่งกีดขวางกระทันหันแล้วเบรก ทำให้ล้อหน้าหยุด ล้อหลังกระดก คนขับจึงลอยกระแทกกับพื้นหรือสิ่งต่างๆ อุบัติเหตุลักษณะนี้จะมีความรุนแรง เพราะกระทบกับโครงสร้างหลักของร่างกาย แม้จะมีการสวมหมวกกันน็อก สนับเข่า สนับมือ เพื่อกันกระแทก แต่แรงเหวี่ยงที่เกิดจากตัวลอยกระแทกพื้นนั้นก็ทำให้กระดูกคอสะบัดได้ หรือแขนถูกเหวี่ยงกระทบพื้นก็อาจหัก หรือเส้นเลือดและเส้นประสาทฉีกขาดได้
นพ.เอกกิตติ์ กล่าวว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุขณะปั่นจักรยานแล้วล้ม หากเป็นไปได้พยายามเอาด้านข้างลง ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากการปั่นจักรยาน หากเป็นการล้มแบบด้านข้างที่ไม่รุนแรงก็สามารถช่วยเหลือเบื้องต้นได้ แต่หากเป็นการล้มคมำควรประเมินอาการผู้บาดเจ็บก่อนว่ารุนแรงหรือไม่ เพราะหากอาการรุนแรงมาก การเข้าไปช่วยเข้าไปขยับร่างกายผู้ป่วยอาจทำให้อาการรุนแรงขึ้น
"สำหรับกิจกรรม ปั่นเพื่อพ่อ Bike For Dad ขอให้นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลักก่อน ที่สำคัญกิจกรรมนี้เป็นการปั่นแบบขบวนใหญ่ หากมีการแทรก สะดุด หรือเกิดการล้ม อาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่ปั่นตามมาได้ ดังนั้น เมื่อพบเห็นอุบัติเหตุในการปั่น แนะนำว่าอย่าหยุดปั่นกลางคันแล้วลงไปดูคนเจ็บ เพราะคันหลังอาจหยุดไม่ทันแล้วเกิดอุบัติเหตุได้ จอให้เลี่ยงออกจากจุดเกิดเหตุเข้าข้างทาง แล้วโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็จะมีทีมแพทย์ประจำจุด และทีมแพทย์จักรยาานที่ปั่นตามมาอยู่แล้ว ก็จะมีอุปกรณ์ มีความรู้ พร้อมที่จะช่วยเหลือมากกว่า" นพ.เอกกิตติ์ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่