สพฉ. พัฒนาระบบแจ้งเหตุป่วยฉุกเฉินสำหรับผู้พิการ ผ่านแอปฯ TTRS Video ลดข้อจำกัดการสื่อสาร แนะ 9 ข้อควรรู้ก่อนแจ้งเหตุ
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้สรุปข้อมูลคนพิการล่าสุดว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 1,606,919 คน แบ่งเป็น เพศชาย 861,852 คน และเพศหญิง 745,067 คน ทั้งนี้ สพฉ. มีการพัฒนาระบบการรับแจ้งเหตุผู้ป่วยฉุกเฉิน สำหรับผู้บกพร่องทางร่างกาย ทั้งการมองเห็น การได้ยิน และการพูด โดยผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูดนั้น สพฉ. ได้จัดทำโครงการร่วมกับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการและศูนย์บริการถ่ายทอดการสื่อสารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้บกพร่องทางการได้ยินและการพูด สามารถสื่อสารขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ โดยหากเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถแจ้งเหตุผ่านแอปพลิเคชัน TTRS Video ของศูนย์ล่ามภาษามือ หรือสื่อสารผ่านตู้ TTRS ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 120 ตู้ ทั่วประเทศ ทั้งในสถานที่ราชการ ห้างสรรพสินค้า และสถานีขนส่งมวลชน โดยผู้บกพร่องทางการได้ยินสามารถใช้ภาษามือสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ผ่านวิดีโอคอลได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากนั้นจะมีการประสานงานต่อมายังศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 ของแต่ละจังหวัด เพื่อซักประวัติอาการ และระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุ รวมไปถึงการให้คำแนะนำในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนส่งจัดส่งทีมผู้ปฎิบัติการทางการแพทย์ฉุกเฉินไปให้ความช่วยเหลือ
“นอกจากนี้ สพฉ. ยังมีการพัฒนาแอปพลิเคชัน EMS1669 หรือแอปพลิเคชันเรียกรถพยาบาลด้วย โดยผู้ป่วยฉุกเฉินสามารถกดเรียกรถพยาบาล แจ้งอาการและพิกัดที่อยู่ได้ทันที รวมทั้งยังมีการให้ความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นขณะรอทีมแพทย์มาช่วยเหลือ ข้อมูลโรงพยาบาลใกล้เคียง และข้อมูลการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินด้วย” เลขาธิการ สพฉ. กล่าวและว่า สำหรับผู้บกพร่องทางการมองเห็น การแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน ไม่ลำบากมากนักเพราะสามารถสื่อสารโทร.แจ้งเหตุฉุกเฉินผ่านสายด่วน 1669 ได้ตามปกติ แต่ที่สำคัญ คือ ต้องผู้แจ้งจะต้องจดจำคือข้อควรรู้ 9 ข้อ ก่อนแจ้งเหตุฉุกเฉินให้ได้ คือ 1. ตั้งสติ และโทร.แจ้งสายด่วน 1669 2. ให้ข้อมูลลักษณะเหตุการณ์ ว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร หรือเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินในลักษณะใด 3. บอกสถานที่เกิดเหตุ 4. บอกเพศ อายุ จำนวนผู้บาดเจ็บ 5. บอกระดับความรู้สึกตัวของผู้บาดเจ็บ 6. บอกความเสี่ยงซ้ำ 7. แจ้งชื่อและเบอร์ติดต่อกลับ 8. ช่วยเหลือตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ และ 9. รอชุดปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินมารับผู้ป่วยเพื่อนำส่งโรงพยาบาล
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่