กรมแพทย์แผนไทยฯ จ่อชงตั้งคณะกรรมการสมุนไพรระดับชาติ ดึงทุกกระทรวงเกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ดูแลวางแผนสมุนไพรครบวงจร ตั้งแต่การปลูก การผลิต การแปรรูป เพื่อเป็นสินค้าส่งออกใหม่ของไทยนอกจากข้าว พร้อมเสนอแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี
นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยเฉพาะเรื่องของสมุนไพรกับการแพทย์แผนไทย น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม (Product Chompions) ที่สามารถช่วยเศรษฐกิจไทยได้ดี ซึ่งตนเองเห็นด้วยที่รัฐบาลส่งเสริม เพราะหากขายข้าวอย่างเดียวคู่แข่งที่เป็นประเทศต่าง ๆ มีมาก ประเทศไทยจึงต้องนำสิ่งที่มีในเรื่องของภูมิปัญญามาพัฒนา ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนที่มีสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาและการดูแลสุขภาพจำนวนมาก หากนำมาต่อยอดส่งออกไปต่างประเทศก็จะมีมูลค่าเพิ่มอย่างมาก ซึ่งตลาดในเรื่องนี้กำลังเริ่มต้น และอยู่ระหว่างการปรับปรุงตลาดให้มีมากขึ้น ซึ่งหน่วยงานรัฐต้องเข้าไปส่งเสริม โดยอาจจะจัดโรดโชว์ทำให้ผลิตภัณฑ์และยาสมุนไพร รวมถึงการแพทย์แผนไทย เช่น การนวด ให้กลายเป็นตราสัญลักษณ์อีกอย่างของประเทศ
นพ.สุริยะ กล่าวว่า กรมฯ เตรียมยกร่างแผนยุทธศาสตร์ระยะเวลา 5 ปี เสนอรัฐบาลเกี่ยวกับสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองและการแข่งขันที่ยั่งยืน โดยจะต้องมีการหารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร กระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการแปรรูป และภาคเอกชนด้วย โดยจะมีการสำรวจความต้องการในเชิงอุตสาหกรรมว่าจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบสมุนไพรเท่าไร เพื่อนำไปประสานกับฝั่งส่งเสริมการปลูกให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ซึ่งในการส่งเสริมให้ปลูกสมุนไพรอาจจะมีรายได้ต่อไร่สูงกว่าปลูกข้าว นอกจากนี้ จะนำเสนอ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ในการจัดตั้งคณะกรรมการสมุนไพรระดับชาติ ที่จะมีผู้แทนจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ
“สมุนไพรและการดูแลสุขภาพเป็นโอกาสของประเทศไทย ต้องหาช่องทางที่จะทำให้เกิดโอกาส เช่น การฝึกอาชีพด้านศาสตร์สมุนไพร ก็ต้องฝึกอบรม ออกใบรับรอง โดยสิ่งพวกนี้จะต้องทำให้เป็นระบบเพื่อให้สากลยอมรับ ซึ่งในการส่งเสริมต้องทำตั้งแต่ต้นทาง คือเกษตรกรผู้ปลูก สู่การแปรรูปและส่งออก หากเชื่อมโยงกันได้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและการดูแลสุขภาพจะเป็นสินค้าส่งออกอีกตัวที่น่าสนใจของประเทศไทย” นพ.สุริยะ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ถือเป็นช่วงขาขึ้นของการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โดยเฉพาะเรื่องของสมุนไพรกับการแพทย์แผนไทย น่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยม (Product Chompions) ที่สามารถช่วยเศรษฐกิจไทยได้ดี ซึ่งตนเองเห็นด้วยที่รัฐบาลส่งเสริม เพราะหากขายข้าวอย่างเดียวคู่แข่งที่เป็นประเทศต่าง ๆ มีมาก ประเทศไทยจึงต้องนำสิ่งที่มีในเรื่องของภูมิปัญญามาพัฒนา ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนที่มีสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาและการดูแลสุขภาพจำนวนมาก หากนำมาต่อยอดส่งออกไปต่างประเทศก็จะมีมูลค่าเพิ่มอย่างมาก ซึ่งตลาดในเรื่องนี้กำลังเริ่มต้น และอยู่ระหว่างการปรับปรุงตลาดให้มีมากขึ้น ซึ่งหน่วยงานรัฐต้องเข้าไปส่งเสริม โดยอาจจะจัดโรดโชว์ทำให้ผลิตภัณฑ์และยาสมุนไพร รวมถึงการแพทย์แผนไทย เช่น การนวด ให้กลายเป็นตราสัญลักษณ์อีกอย่างของประเทศ
นพ.สุริยะ กล่าวว่า กรมฯ เตรียมยกร่างแผนยุทธศาสตร์ระยะเวลา 5 ปี เสนอรัฐบาลเกี่ยวกับสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเองและการแข่งขันที่ยั่งยืน โดยจะต้องมีการหารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการส่งเสริมการปลูกสมุนไพร กระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการแปรรูป และภาคเอกชนด้วย โดยจะมีการสำรวจความต้องการในเชิงอุตสาหกรรมว่าจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบสมุนไพรเท่าไร เพื่อนำไปประสานกับฝั่งส่งเสริมการปลูกให้เกิดความเชื่อมโยงกัน ซึ่งในการส่งเสริมให้ปลูกสมุนไพรอาจจะมีรายได้ต่อไร่สูงกว่าปลูกข้าว นอกจากนี้ จะนำเสนอ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข ในการจัดตั้งคณะกรรมการสมุนไพรระดับชาติ ที่จะมีผู้แทนจากทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ
“สมุนไพรและการดูแลสุขภาพเป็นโอกาสของประเทศไทย ต้องหาช่องทางที่จะทำให้เกิดโอกาส เช่น การฝึกอาชีพด้านศาสตร์สมุนไพร ก็ต้องฝึกอบรม ออกใบรับรอง โดยสิ่งพวกนี้จะต้องทำให้เป็นระบบเพื่อให้สากลยอมรับ ซึ่งในการส่งเสริมต้องทำตั้งแต่ต้นทาง คือเกษตรกรผู้ปลูก สู่การแปรรูปและส่งออก หากเชื่อมโยงกันได้ ผลิตภัณฑ์สมุนไพรและการดูแลสุขภาพจะเป็นสินค้าส่งออกอีกตัวที่น่าสนใจของประเทศไทย” นพ.สุริยะ กล่าว
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่