xs
xsm
sm
md
lg

ผู้สร้างหนัง “อาบัติ” ยอมแก้ไข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


วธ. ถกค่ายสหมงคลฟิล์ม ผู้สร้างพร้อมแก้ไข “อาบัติ” ส่งกรรมการตรวจชี้ขาดอีกรอบ โดยไม่ต้องรอยื่นอุทธรณ์

วันนี้ (14 ต.ค.) นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม กล่าวถึงมติเสียงข้างมากของคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ที่กำหนดให้ภาพยนตร์ เรื่อง อาบัติ ของค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ห้ามเผยแพร่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเนื้อหาของภาพยนตร์นำความเสื่อมเสียมาสู่ศาสนา ว่า ทาง วธ. ไม่ได้จ้องที่จะระงับการฉายแต่อย่างใด เพราะเข้าใจเรื่องของธุรกิจดี แต่เท่าที่ได้ฟังรายละเอียดจากคณะกรรมการ ทราบว่า มีฉากที่ไม่เหมาะสมหลายฉาก เช่น การจูบปากสีกา การโอบสีกาเข้ากุฏิ และการใช้มือจับเศียรพระพุทธรูปวางลงบนพื้น เป็นต้น ถ้าหากอนุญาตให้มีการฉายตามเนื้อหาที่นำมาเสนอมาทั้งหมด และมีการซื้อภาพยนตร์เรื่องนี้นำไปฉายในต่างประเทศ จะทำให้ภาพลักษณ์ของศาสนาพุทธเกิดความเสียหาย เพราะต่างชาติไม่เข้าใจบริบทการปฏิบัติของพระสงฆ์ อาจจะมองว่าเป็นกิจปกติที่พระสงฆ์และสามเณรสามารถปฏิบัติได้

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. วธ. ได้เชิญผู้แทนค่ายสหมงคลฟิล์ม และผู้เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเกี่ยวกับมติดังกล่าว โดยมี ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัด วธ. เป็นประธาน ใช้เวลาหารือกว่า 2 ชั่วโมง ศ.ดร.อภินันท์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของทั้ง วธ. และผู้สร้างภาพยนตร์ ซึ่งเห็นว่าข้อกำหนดห้ามฉายตาม พ.ร.บ. ภาพยนตร์และวีดิทัศน์พ.ศ. 2551 ในมาตรา 26(7) ดังกล่าวนั้น ยังพอมีทางออก ดังนี้ 1. ยังมีพื้นที่ให้ผู้สร้างสามารถนำเสนอการปรับปรุงแก้ไขภาพยนตร์ใหม่ 2. เมื่อผู้สร้างนำภาพยนตร์ที่ปรับปรุงแก้ไขภาพยนตร์ใหม่แล้วนำเสนอต่อสำนักพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์พิจารณาใหม่ ซึ่งทางสำนักฯก็อาจให้คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ชุดอื่นซึ่งมีทั้งหมด 5 ชุด พิจารณา และลงมติใหม่ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคณะกรรมการชุดเดิม และ 3. สามารถนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ เพื่อพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์และผู้เกี่ยวข้อง และลงมติว่าจะให้ฉายได้หรือไม่

“สำหรับกรณีการยื่นอุทธรณ์นั้นเป็นเรื่องที่ผู้สร้างต้องการยืนยันตามเรื่องเดิมโดยไม่มีการตัดต่อหรือปรับแก้ใด ๆ ซึ่งเวลานี้ผู้สร้างพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไข ดังนั้นอาจจะมีการพิจารณาชี้ขาดหนังอาบัติใหม่อีกครั้ง ว่า จะได้ฉายหรือไม่ได้ โดยไม่ต้องรอให้มีการยื่นอุทธรณ์เข้ามา อย่างไรก็ตาม บทเรียนของหนังเรื่องนี้ก็เหมือนกับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่ วธ. เคยเจอปัญหามา ซึ่งต้องเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของศาสนาถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ หนังเรื่องอื่น ๆ ในต่างประเทศก็มีการแบนเช่นเดียวกัน เช่น หนังเกี่ยวกับคาทอลิกก็ถูกแบนโดยวาติกัน”ศ.ดร.อภินันท์ กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่



กำลังโหลดความคิดเห็น