“คลินิกพกพา จะเป็นเหมือนกระเป๋าเดินทางที่สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ เวลาใช้ก็เพียงกดปุ่มเปิดการทำงาน ซึ่งเครื่องนี้จะทำหน้าที่เสมือนคุณหมอตรวจเช็กอุณหภูมิร่างกาย มีไข้หรือไม่ วิเคราะห์อัตราการหายใจ ชีพจร วัดความดัน ตรวจเลือด และสแกนร่างกายทั้งหมด เพื่อหาสาเหตุของโรคหรืออาการป่วย หลังจากนั้นจะผลิตตัวยาหรือวัคซีน เพื่อทำการรักษาตามอาการ”
คำบอกเล่าไอเดียสุดล้ำของน้องจีโน่ หรือ ด.ช.จิรเดช บุญปัญญาธนาชัย นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่กล้าคิด กล้านำเสนอสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตอย่าง “คลินิกพกพา” ที่หวังว่าจะเป็นเครื่องมือมาช่วยดูแลสุขภาพของมนุษย์เราในอนาคต ในโครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015”
น้องจีโน่ เล่าถึงที่มาของคลินิกพกพาให้ฟังว่า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันเชื้อโรคมีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดโรคใหม่ๆ มากมาย ทำให้ผู้คนที่รอคอยการรักษาเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทยและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในถิ่นที่ทุรกันดารที่ไม่สามารถนำคนป่วยออกมารักษา หรือเป็นพื้นที่ที่คุณหมอเดินทางยากลำบาก ซึ่งจะดีมากถ้าเราสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองและครอบครัวให้แข็งแกร่ง รวมทั้งสามารถช่วยเหลือผู้อื่นยามฉุกเฉินได้ โดยอาศัยเครื่อง “คลินิกพกพา”
“ถ้าเราตัวร้อนไม่สบาย “คลินิกพกพา” จะทำการผลิตยาลดไข้ พร้อมใบกำกับยา เพื่อให้เราสามารถใช้ได้อย่างถูกวิธี และใช้ยาอย่างระมัดระวัง โดยสามารถปรับโหมดการทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น โหมดพกพา โหมดตรวจสุขภาพ และโหมดฉุกเฉิน ซึ่งโหมดฉุกเฉินนี้จะดีมากในกรณีที่เราได้พบผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ เราก็สามารถใช้เครื่องมือตัวนี้ในการรักษาอาการเบื้องต้น เพื่อให้เขารอดพ้นจากอันตรายได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย นอกจากนี้ “คลินิกพกพา” ยังหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งโลก”
ขณะที่น้องนิด้า หรือ ด.ญ.เกวลิน กลิ่นพยอม นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนอนุบาลสามเสน นำเสนอ “เครื่องขนย้ายทุกสถานที่” โดยระบุว่า ได้แนวคิดมาจากความที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกให้ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็ว ซึ่งภัยพิบัติตามธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งสูญเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือน ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น โดยเฉพาะอาหาร น้ำ และยา ซึ่งมีความจำเป็นมาก ๆ
“จะดีแค่ไหนที่เราจะสามารถช่วยคนทั้งโลกเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำงานของเครื่องนี้จะแบ่งเป็นเครื่องส่งและเครื่องรับ ซึ่งเครื่องมือนี้จะทำการส่งสัญญาณค้นหาพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิดไปทั่วโลก เมื่อตรวจพบสัญญาณภัยพิบัติแล้วจะส่งพิกัดกลับมาเพื่อให้เรากำหนดพื้นที่ในการช่วยเหลือ เมื่อกำหนดจุดพื้นที่เกิดภัยพิบัติแล้ว เครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจะบินไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่หมายจะทำการส่งสัญญาณกลับให้กับเครื่องส่ง เพื่อเริ่มดำเนินการสแกนจะส่งสิ่งของต่าง ๆ ไปยังปลายทาง ทั้งอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ โดยเครื่องจะทำหน้าที่เสมือนเป็นเครื่องย้ายมวลสารเฉพาะแค่สิ่งของต่าง ๆ แต่ยังมีข้อกำจัดที่ว่ายังไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนหรือทีมงานช่วยเหลือไปยังที่เกิดภัยพิบัติได้ ซึ่งตรงนี้ยังต้องดำเนินการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถต่อไป”
ไอเดียสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตทั้ง 2 ไอเดียนี้ เป็นเพียงตัวอย่างจาก 70 ผลงานความคิดสุดสร้างสรรค์ของเยาวชนระดับ ป.1 - 6 ที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในโครงการฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015 ซึ่งมีเยาวชนส่งผลงานรวมแล้วกว่า 12,669 ผลงาน ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายสมภพ ปฏิภาณธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้าได้มอบทุนสร้างแบบจำลองสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต ในภารกิจประดิษฐ์กระหึ่มโลก แก่น้องๆ เยาวชนเจ้าของไอเดียสุดล้ำทั้ง 70 ผลงานที่เข้ารอบ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกำหนดระยะเวลาให้น้อง ๆ ส่งผลงานที่เป็นตัวแบบจำลองในวันที่ 3 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีคณะกรรมการมาร่วมทำการตัดสินว่าผลงานใด ของน้องคนใดที่จะคว้ารางวัลชนะเลิศ ทั้งนี้ โครงการฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015 เป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และกระบวนการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์แก่เยาวชน ซึ่งฮอนด้าดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว
ความใฝ่ฝันและจินตนาการภายใต้ความคิดที่ว่า “ทุกสิ่งเป็นไปได้” ไม่แน่ว่าผลงานสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตเหล่านี้อาจเป็นจริงขึ้นได้ในสักวัน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
คำบอกเล่าไอเดียสุดล้ำของน้องจีโน่ หรือ ด.ช.จิรเดช บุญปัญญาธนาชัย นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่กล้าคิด กล้านำเสนอสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตอย่าง “คลินิกพกพา” ที่หวังว่าจะเป็นเครื่องมือมาช่วยดูแลสุขภาพของมนุษย์เราในอนาคต ในโครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015”
น้องจีโน่ เล่าถึงที่มาของคลินิกพกพาให้ฟังว่า สุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะปัจจุบันเชื้อโรคมีจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดโรคใหม่ๆ มากมาย ทำให้ผู้คนที่รอคอยการรักษาเป็นจำนวนมาก ทั้งในประเทศไทยและพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในถิ่นที่ทุรกันดารที่ไม่สามารถนำคนป่วยออกมารักษา หรือเป็นพื้นที่ที่คุณหมอเดินทางยากลำบาก ซึ่งจะดีมากถ้าเราสามารถดูแลสุขภาพของตัวเองและครอบครัวให้แข็งแกร่ง รวมทั้งสามารถช่วยเหลือผู้อื่นยามฉุกเฉินได้ โดยอาศัยเครื่อง “คลินิกพกพา”
“ถ้าเราตัวร้อนไม่สบาย “คลินิกพกพา” จะทำการผลิตยาลดไข้ พร้อมใบกำกับยา เพื่อให้เราสามารถใช้ได้อย่างถูกวิธี และใช้ยาอย่างระมัดระวัง โดยสามารถปรับโหมดการทำงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เช่น โหมดพกพา โหมดตรวจสุขภาพ และโหมดฉุกเฉิน ซึ่งโหมดฉุกเฉินนี้จะดีมากในกรณีที่เราได้พบผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุ เราก็สามารถใช้เครื่องมือตัวนี้ในการรักษาอาการเบื้องต้น เพื่อให้เขารอดพ้นจากอันตรายได้อย่างทันท่วงทีอีกด้วย นอกจากนี้ “คลินิกพกพา” ยังหาซื้อได้ง่าย ๆ ตามร้านเพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งโลก”
ขณะที่น้องนิด้า หรือ ด.ญ.เกวลิน กลิ่นพยอม นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนอนุบาลสามเสน นำเสนอ “เครื่องขนย้ายทุกสถานที่” โดยระบุว่า ได้แนวคิดมาจากความที่ต้องการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในพื้นที่ประสบเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติทั่วโลกให้ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็ว ซึ่งภัยพิบัติตามธรรมชาตินั้นเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ทั้งสูญเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งทรัพย์สิน บ้านเรือน ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น โดยเฉพาะอาหาร น้ำ และยา ซึ่งมีความจำเป็นมาก ๆ
“จะดีแค่ไหนที่เราจะสามารถช่วยคนทั้งโลกเมื่อเกิดภาวะฉุกเฉินจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำงานของเครื่องนี้จะแบ่งเป็นเครื่องส่งและเครื่องรับ ซึ่งเครื่องมือนี้จะทำการส่งสัญญาณค้นหาพื้นที่ที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิดไปทั่วโลก เมื่อตรวจพบสัญญาณภัยพิบัติแล้วจะส่งพิกัดกลับมาเพื่อให้เรากำหนดพื้นที่ในการช่วยเหลือ เมื่อกำหนดจุดพื้นที่เกิดภัยพิบัติแล้ว เครื่องมือที่ทำหน้าที่เป็นตัวรับสัญญาณจะบินไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่หมายจะทำการส่งสัญญาณกลับให้กับเครื่องส่ง เพื่อเริ่มดำเนินการสแกนจะส่งสิ่งของต่าง ๆ ไปยังปลายทาง ทั้งอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ โดยเครื่องจะทำหน้าที่เสมือนเป็นเครื่องย้ายมวลสารเฉพาะแค่สิ่งของต่าง ๆ แต่ยังมีข้อกำจัดที่ว่ายังไม่สามารถเคลื่อนย้ายคนหรือทีมงานช่วยเหลือไปยังที่เกิดภัยพิบัติได้ ซึ่งตรงนี้ยังต้องดำเนินการวิจัยและพัฒนาขีดความสามารถต่อไป”
ไอเดียสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตทั้ง 2 ไอเดียนี้ เป็นเพียงตัวอย่างจาก 70 ผลงานความคิดสุดสร้างสรรค์ของเยาวชนระดับ ป.1 - 6 ที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในโครงการฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015 ซึ่งมีเยาวชนส่งผลงานรวมแล้วกว่า 12,669 ผลงาน ซึ่งผู้ชนะเลิศจะได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นายสมภพ ปฏิภาณธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮอนด้าได้มอบทุนสร้างแบบจำลองสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคต ในภารกิจประดิษฐ์กระหึ่มโลก แก่น้องๆ เยาวชนเจ้าของไอเดียสุดล้ำทั้ง 70 ผลงานที่เข้ารอบ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยกำหนดระยะเวลาให้น้อง ๆ ส่งผลงานที่เป็นตัวแบบจำลองในวันที่ 3 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีคณะกรรมการมาร่วมทำการตัดสินว่าผลงานใด ของน้องคนใดที่จะคว้ารางวัลชนะเลิศ ทั้งนี้ โครงการฮอนด้า ซูเปอร์ไอเดีย คอนเทสต์ 2015 เป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ และกระบวนการเรียนรู้เชิงวิทยาศาสตร์แก่เยาวชน ซึ่งฮอนด้าดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 แล้ว
ความใฝ่ฝันและจินตนาการภายใต้ความคิดที่ว่า “ทุกสิ่งเป็นไปได้” ไม่แน่ว่าผลงานสิ่งประดิษฐ์แห่งอนาคตเหล่านี้อาจเป็นจริงขึ้นได้ในสักวัน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
