“สุรเชษฐ์” ชู 3 มาตรการ “ประกันโอกาส - ประกันคุณภาพ - ประกันประสิทธิภาพ” ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
วันนี้ (31 ส.ค.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ตนแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 1 เดือน โดยตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ระดับปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มทุกพื้นที่ และทุกระดับการศึกษาได้รับการเข้าถึงทางการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสม มีคุณภาพเท่าเทียมกันตามศักยภาพ ตลอดจนการมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการสร้างโอกาสและความเป็นธรรมในสังคม
สำหรับมาตรการลดความเหลื่อมล้ำ ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการที่ 1 ประกันโอกาส แบ่งเป็น ด้านสุขภาพ อาทิ จัดอาหารเช้าให้แก่เด็กด้อยโอกาสที่มีความยากจนมากเป็นพิเศษ (ครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี) จัดให้มีบริการช่วยเหลือบำบัดฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ห้องเรียนปกติ ด้านการเข้าถึงการศึกษา อาทิ จัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ จัดเรือนพักนอนสำหรับนักเรียน เติมเต็มความรู้ผ่านสื่อที่หลากหลาย ด้านค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา อาทิ จัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับปัจจัยพื้นฐานแก่เด็กยากจนในอัตราส่วนที่สอดคล้องกับเส้นแบ่งความจน และด้านการช่วยเหลือเฉพาะเรื่อง จัดตั้งศูนย์เยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบ จัดเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นเฉพาะบุคคล
มาตรการที่ 2 ประกันคุณภาพ แบ่งเป็น ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดให้มีครูพี่เลี้ยงประจำชั้นเรียน พัฒนาครูให้สามารถสอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษ พัฒนาครูให้มีทักษะในการจัดการเรียนรู้ ด้านหลักสูตร ด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยจัดทำหลักสูตรอาเซียน หลักสูตรอาชีพให้โรงเรียนเลือกใช้ สนับสนุนหลักสูตรทวิศึกษา มุ่งจัดการเรียนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เรียน และด้านสื่อและการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จัดหาสื่อและพัฒนาสื่อสำหรับพัฒนาด้านต่าง ๆ ของผู้เรียน สนับสนุนทุนประกอบอาชีพระหว่างเรียน
และมาตรการสุดท้าย ประกันประสิทธิภาพ แบ่งเป็น ด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ ใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกล จัดให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงมีประสิทธิภาพ ด้านระบบบริหารจัดการและธรรมาภิบาล อาทิ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้มีและเลื่อนวิทยฐานะที่สอดคล้องกับการพัฒนางานประจำ ด้านระบบสนับสนุนประสิทธิภาพ พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีการเชื่อมโยงตั้งแต่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ พัฒนาผู้บริหารให้มีภาวะผู้นำทางวิชาการ และพัฒนาครูให้สอดคล้องกับภารกิจที่รับผิดชอบโดยยึดพื้นที่ และด้านระบบสนับสนุนงบประมาณอย่างเที่ยงธรรม อาทิ ปฏิรูประบบงบประมาณให้สถานศึกษามีส่วนร่วมมากขึ้น และจัดงบเพิ่มเติมพิเศษให้แก่โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งเชื่อมั่นมาตรการเหล่านี้จะช่วยขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้หมดไปอย่างแน่นอน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
วันนี้ (31 ส.ค.) พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้ตนแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษานั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 1 เดือน โดยตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย คือ ระดับปฐมวัย การศึกษาขั้นพื้นฐาน อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา เพื่อให้ผู้เรียนทุกกลุ่มทุกพื้นที่ และทุกระดับการศึกษาได้รับการเข้าถึงทางการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสม มีคุณภาพเท่าเทียมกันตามศักยภาพ ตลอดจนการมีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนการสร้างโอกาสและความเป็นธรรมในสังคม
สำหรับมาตรการลดความเหลื่อมล้ำ ประกอบด้วย 3 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการที่ 1 ประกันโอกาส แบ่งเป็น ด้านสุขภาพ อาทิ จัดอาหารเช้าให้แก่เด็กด้อยโอกาสที่มีความยากจนมากเป็นพิเศษ (ครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 20,000 บาทต่อปี) จัดให้มีบริการช่วยเหลือบำบัดฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ห้องเรียนปกติ ด้านการเข้าถึงการศึกษา อาทิ จัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ จัดเรือนพักนอนสำหรับนักเรียน เติมเต็มความรู้ผ่านสื่อที่หลากหลาย ด้านค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา อาทิ จัดสรรงบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับปัจจัยพื้นฐานแก่เด็กยากจนในอัตราส่วนที่สอดคล้องกับเส้นแบ่งความจน และด้านการช่วยเหลือเฉพาะเรื่อง จัดตั้งศูนย์เยียวยาเด็กที่ได้รับผลกระทบ จัดเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่สอดคล้องกับความต้องการจำเป็นเฉพาะบุคคล
มาตรการที่ 2 ประกันคุณภาพ แบ่งเป็น ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา จัดให้มีครูพี่เลี้ยงประจำชั้นเรียน พัฒนาครูให้สามารถสอนวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ด้วยภาษาอังกฤษ พัฒนาครูให้มีทักษะในการจัดการเรียนรู้ ด้านหลักสูตร ด้านหลักสูตรและกระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยจัดทำหลักสูตรอาเซียน หลักสูตรอาชีพให้โรงเรียนเลือกใช้ สนับสนุนหลักสูตรทวิศึกษา มุ่งจัดการเรียนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้เรียน และด้านสื่อและการสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จัดหาสื่อและพัฒนาสื่อสำหรับพัฒนาด้านต่าง ๆ ของผู้เรียน สนับสนุนทุนประกอบอาชีพระหว่างเรียน
และมาตรการสุดท้าย ประกันประสิทธิภาพ แบ่งเป็น ด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ ใช้เทคโนโลยีการศึกษาทางไกล จัดให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึงมีประสิทธิภาพ ด้านระบบบริหารจัดการและธรรมาภิบาล อาทิ กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้มีและเลื่อนวิทยฐานะที่สอดคล้องกับการพัฒนางานประจำ ด้านระบบสนับสนุนประสิทธิภาพ พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีการเชื่อมโยงตั้งแต่สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ พัฒนาผู้บริหารให้มีภาวะผู้นำทางวิชาการ และพัฒนาครูให้สอดคล้องกับภารกิจที่รับผิดชอบโดยยึดพื้นที่ และด้านระบบสนับสนุนงบประมาณอย่างเที่ยงธรรม อาทิ ปฏิรูประบบงบประมาณให้สถานศึกษามีส่วนร่วมมากขึ้น และจัดงบเพิ่มเติมพิเศษให้แก่โรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งเชื่อมั่นมาตรการเหล่านี้จะช่วยขจัดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้หมดไปอย่างแน่นอน
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่
