กรมการแพทย์ ชี้ โรคภูมิแพ้เกิดจากกรรมพันธุ์ ติดเชื้อซ้ำ ๆ พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อยู่กับสารก่อภูมิแพ้เป็นเวลานาน แนะสารพัดวิธีรับมือภูมิแพ้ประเภทต่าง ๆ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคภูมิแพ้เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้มีความผิดปกติ ซึ่งในร่างกายคนปกติจะแพ้สารก่อภูมิแพ้ได้น้อยมาก หรืออาจจะไม่มีอาการ แต่ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้แต่ละรายจะมีอาการเกิดขึ้นแตกต่างกันและรุนแรงไม่เท่ากัน แม้จะเป็นสารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกันก็ตาม ขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับและการตอบสนองของอวัยวะนั้น ๆ ส่วนสาเหตุของโรคภูมิแพ้เกิดจากการถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ เกิดจากการติดเชื้อซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้มีการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การเครียดเป็นเวลานาน การอดหลับอดนอน หรือการสูบบุหรี่ เกิดจากการอยู่กับสารก่อภูมิแพ้เป็นเวลานาน เช่น สารจากไรฝุ่น ฝุ่นบ้าน สะเก็ดจากแมลงสาบ สารจากขนแมว ขนสุนัข ละอองเกสรดอกไม้ ต้นไม้ ต้นหญ้า วัชพืช และสปอร์จากเชื้อรา
นพ.สุพรรณ กล่าวว่า การป้องกันโรคภูมิแพ้ควรปฏิบัติตน ดังนี้ หลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้ กรณีแพ้ตัวไรฝุ่น ควรนำเครื่องนอนออกไปโดนแสงแดดทุก 15 วัน เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง เพราะตัวไรฝุ่นจะตายเมื่อโดนแสงแดด ห้องนอนไม่ควรปูพรม ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศแอร์ หรือใบพัดลมทุกสัปดาห์ กรณีแพ้ขนสุนัข หรือขนแมว ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสุนัข หรือขนแมว ไม่ควรเลี้ยงสุนัขหรือแมวไว้ในบ้าน กรณีแพ้แมลงสาบ ควรทำความสะอาดบ้านเรือนให้ปราศจากเศษอาหาร หรือใช้ยากำจัดแมลงสาบ
นพ.สุพรรณ กล่าวว่า กรณีแพ้ละอองเกสร ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเกสรทั้งทางตรงและทางอ้อม กรณีแพ้เชื้อรา ควรรักษาความสะอาดร่างกายไม่ให้มีจุดอับชื้น ในห้องนอนไม่ควรมีต้นไม้ที่ต้องรดน้ำ เพื่อไม่ให้มีแหล่งกำเนิดเชื้อรา นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงและอยู่ห่างไกลจากฝุ่นละออง ควันรถยนต์ในชั้นบรรยากาศ ควันก๊าซจากโรงงาน หรือสิ่งกระตุ้นอื่น ๆ เช่น ควันบุหรี่ เป็นต้น รวมทั้งหมั่นระวังอาหารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่าย เช่น กุ้ง ปู หอยทะเลต่าง ๆ ที่สำคัญควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะจะทำภูมิต้านทานดีขึ้น อาการภูมิแพ้ลดลง ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรง สุขภาพทั่วไปดีขึ้น และยังลดโอกาสเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ ได้
ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่