เปิดตัว “น้ำผัวหลง - น้ำเมียหลง” กระชับช่องคลอด เพิ่มสมรรถภาพเพศชาย งานมหกรรมสมุนไพรฯ

รพ.ยศเส เตรียมโชว์ “น้ำผัวหลง” ช่วยกระชับช่องคลอด ลดปวดประจำเดือน “น้ำเมียหลง” เพิ่มสมรรถภาพเพศชาย ในงานมหกรรมสมุนไพรฯ ด้าน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เน้นให้ความรู้ดูแลผู้สูงอายุ ประยุกต์ “หญ้ารีแพร์” เป็นวุ้น กินง่าย ช่วยผิวพรรณเปล่งปลั่ง

วันนี้ (19 ส.ค.) นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 12 เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เม.ย. 2558 ภายใต้แนวคิด “การแพทย์แผนไทย...ความมั่นคงในระบบสุขภาพ” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2 - 6 ก.ย. ที่ ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า การจัดงานในปีนี้เป็นการนำเอาความโดดเด่นในการจัดงานทั้ง 11 ปีที่ผ่านมา มานำเสนอ ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการวิจัยและพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ ก่อให้เกิดรายได้ทางเศรษฐกิจ เช่น มะขามป้อม พริก หมามุ่ย หรือหญ้ารีแพร์ ที่โด่งดังมากในปีที่ผ่านมา ซึ่งนำเสนอเป็นผลิตภัณฑ์ 5 ชนิด ได้แก่ เฟเชียล วอซ คลีนซิง มิลค์ เดย์ครีม อายเจล และครีมบำรุง ส่วนกิจกรรมอื่น ๆ ที่มีความน่าสนใจ ได้แก่ การประชุมวิชาการ นิทรรศการรวบรวมผลงานการวิจัยสมุนไพร การให้บริการการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์แผนจีนครบวงจร เป็นต้น

ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า โรงพยาบาลได้นำเสนอแนวคิด “ชะลอวัย ไกลโรค” เพราะเห็นว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ข้อมูลการดูแลสุขภาพจึงเป็นการดูแลผู้สูงอายุครบวงจร ตั้งแต่ช่องปาก ทางเดินอาหาร หัวใจ ตับ ไต ซึ่งหากประชาชนเรียนรู้และมีความเตรียมพร้อมดูแลสุขภาพตัวเองดี จะช่วยลดการไปใช้บริการที่โรงพยาบาล ลดภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น โดยภายในงานจะมีการจัดแสดงและแจกสมุนไพรหายาก เช่น ต้นป่าเฮ่วหมอง หรือป่าช้าหมอง ถือเป็นยาอายุวัฒนะ ตายช้าจนป่าช้าหมอง ต้นหัวเข่าคลอน ช่วยรักษาข้อเข่า ว่านนางตัด เป็นสมุนไพรโบราณบำรุงสุขภาพผู้หญิง และเพชรสังฆาต ช่วยลดการสลายตัวของกระดูก เพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุน เป็นต้น ซึ่งจะมีแจกวันละ 300 ต้น รวมทั้งหนังสือบันทึกของแผ่นดิน 8 สมุนไพรชะลอวัยไกลโรค วันละ 200 เล่ม ทุกวัน

ภญ.สุจิตรา คชเสนี ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวว่า ในปีนี้เสนอผลงานวิจัยของสารสกัดขมิ้นชัน ซึ่งพบว่าสารเคอร์คูมินอยด์ ในขมิ้นชันมีประโยชน์ทั้งลดการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันตับจากสารพิษ มีฤทธิ์ป้องกันการเกิดมะเร็ง บำรุงสมอง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ล่าสุด มีงานวิจัยผู้ป่วยธาลัสซีเมียเด็กที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ ช่วยเพิ่มอายุของเม็ดเลือดแดง และมีการศึกษาผลในการรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม พบว่า ผู้ป่วยมีอาการปวดข้อ ความฝืดของข้อลดลง

พทป.ณัชชา เต็งเติมวงศ์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า โรงพยาบาลได้คิดค้นสูตรนำหญ้ารีแพร์มาประยุกต์ทำขนมวุ้น นอกเหนือจากนำมาต้มน้ำรับประทาน เพื่อให้ประชาชนนำไปทำเองได้ง่าย โดยการคั้นน้ำจากหญ้ารีแพร์ ผสมน้ำใบเตยให้กลิ่นหอม ผงวุ้น น้ำตาล กะทิ และเกลือ ซึ่งสรรพคุณหญ้ารีแพร์ ช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง เปล่งปลั่ง มีคอลลาเจนจากธรรมชาติ โดยจะมีการเปิดตัวครั้งแรกในงานมหกรรมฯ

พทป.อิศรา พงษ์พาณิชย์ แพทย์แผนไทยประยุกต์ ส่วนงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน (ยศเส) กล่าวว่า ในปีนี้ได้มีการคิดค้นพัฒนาสูตรตำรับสมุนไพรไทย 2 ชนิดที่ช่วยเสริมสมรรถภาพ ได้แก่ “น้ำผัวหลง” สำหรับสตรี พัฒนามาจากสูตรสมุนไพรดั้งเดิมในคัมภีร์แพทย์แผนไทย ส่วนประกอบ ได้แก่ หญ้ารีแพร์ ว่านชักมดลูก หญ้าหวาน มะตูม และฝาง โดยนำมาต้มรวมกันในปริมาณสัดส่วนเท่า ๆ กัน มีสรรพคุณช่วยกระชับช่องคลอด ลดการอักเสบของช่องคลอด ลดอาการปวดประจำเดือน บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ ขับน้ำคาวปลา บำรุงผิวพรรณ และ "“น้ำเมียหลง” สำหรับบุรุษเพศ ส่วนประกอบหลัก ได้แก่ กระชาย เถาวัลย์เปรียง กำแพงเจ็ดชั้น ม้ากระทืบโรง คำฝอย เป็นต้น มีสรรพคุณช่วยเสริมสมรรถนภาพทางเพศ บำรุงกำลัง เป็นยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อย ช่วยบำรุงการไหลเวียนของโลหิต

พทป.อิศรา กล่าวว่า จากการทดลองให้ผู้ป่วย 50 ราย รับประทาน พบว่า มีสุขภาพดีขึ้นโดยผู้ชายที่ดื่มน้ำเมียหลงจะมีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย นอนหลับได้ดีขึ้น ส่วนผู้หญิงที่ดื่มน้ำผัวหลง จะมีเลือดฝาด ผิวพรรณเต่งตึง ลดอาการปวดประจำเดือน และปวดหลัง ขณะนี้ได้มีการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมในห้องปฏิบัติการ เพื่อหาคุณสมบัติในการรักษาโรคเพิ่มเติม โดยเฉพาะโรคเลือด ทั้งนี้ น้ำสมุนไพรทั้ง 2 ชนิด สามารถใช้เป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพได้ทุกเพศทุกวัย ดื่มวันละ 1 แก้ว แต่คนเป็นโรคความดันโลหิตสูงต้องระมัดระวัง แต่หากจะใช้เป็นการรักษาโรค จะต้องมีการพบแพทย์แผนไทยเพื่อตรวจร่างกาย เพื่อให้สั่งจ่ายอย่างเหมาะสม เบื้องต้นจะรับประทานวันละ 3 เวลา ก่อนอาหารเช้า กลางวัน และเย็น ส่วนผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และโรคเลือด ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน โดยน้ำสมุนไพรดังกล่าวจะนำไปเปิดตัวในมหกรรมฯ และให้ประชาชนได้ทดลองชิม พร้อมทั้งวางจำหน่ายแบบสำเร็จรูป สามารถนำกลับไปต้มที่บ้านได้ในราคาประมาณ 100 บาท

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่