ชายรักชายไทยมีวินัยกิน “ยาต้านเอดส์” สูงกว่านิวยอร์ก-หญิงแอฟริกา

ศึกษากินยาต้านเอดส์ 3 ประเทศ พบ ชายรักชายไทยกินยาต่อเนื่องสม่ำเสมอมากสุดถึง 85% ขณะที่เด็กชายรักชายนิวยอร์กทำได้ 66% หญิงในแอฟริกาใต้ทำได้ 75% เล็งสร้างแนวทางกระตุ้นให้กินยาต่อเนื่อง

วันนี้ (7 ส.ค.) นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า โครงการวิจัย HPTN 067 หรือ อแดพต์ (ADAPT) เป็นการศึกษาการกินยาเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี เพื่อที่จะเปรียบเทียบการกินยาในรูปแบบที่แตกต่างกัน และจะส่งผลต่อการทำงานของยาอย่างไร อาสาสมัครพอใจในการกินยานี้หรือไม่ โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 500 ราย จาก 3 พื้นที่ คือ ผู้หญิงจากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายและสาวประเภทสอง จาก กทม. ประเทศไทย และจากย่านฮาร์เลม กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสุ่มเลือกให้ผู้เข้าร่วมศึกษาเข้ากลุ่มการกินยา 3 รูปแบบ คือ 1. กินยาทุกวัน 2. กินยาโดยใช้เวลากำหนด (กินยาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และอีก 1 เม็ดหลังการมีเพศสัมพันธ์) และ 3. กินยาโดยใช้เหตุการณ์กำหนด (การกินยาก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์) ในการกินยาของแต่ละกลุ่ม กำหนดว่าจะต้องไม่เกินวันละ 2 เม็ด หรือไม่เกิน 7 เม็ด ใน 1 สัปดาห์

นพ.โสภณ กล่าวว่า ผลการศึกษาโครงการนี้ถูกนำเสนอโดยนักวิจัยจากเครือข่ายการวิจัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ในการประชุมว่าด้วยพยาธิกำเนิด การรักษา และการป้องกันเชื้อเอชไอวี ครั้งที่ 8 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 22 กรกฎาคม 2558 ณ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา พบว่า ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ใน กทม. เป็นกลุ่มที่มีระดับความครอบคลุมของการกินยาและความสม่ำเสมอสูงสุด ทั้งรูปแบบการกินยาแบบทุกวันสูงถึง 85% กินยาโดยใช้เวลากำหนดสูง 84% และกินยาโดยใช้เหตุการณ์กำหนด 74% ส่วนกลุ่มอาสาสมัครเยาวชนชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย ย่านฮาร์เลม พบการกินยาสม่ำเสมอในกลุ่มกินยาทุกวันเพียง 66% และกลุ่มผู้หญิงที่อายุน้อยและยังโสด ในแอฟริกาใต้กินยาสม่ำเสมอทุกวันเพียง 75%

“เป้าหมายของนักวิจัยจากเครือข่ายการวิจัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี คือ การสร้างแรงกระตุ้นเพื่อที่จะค้นหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะนำวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพนี้ เสนอให้แก่ประชากรกลุ่มต่าง ๆ ต่อไปในอนาคต และที่สำคัญ จะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ของผู้ที่ใช้วิธี ป้องกันการติดเชื้อก่อนสัมผัสเชื้อ และรูปแบบการกินยาที่ต่างกันนั้น จะมีผลกระทบต่อผู้ที่ใช้วิธีป้องกันการติดเชื้อก่อนสัมผัสเชื้ออย่างไร” อธิบดี คร. กล่าว

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่