เมื่อลูกเป็นหวัด

ผศ.นพ.จักรพันธ์ สุศิวะ
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์

เข้าหน้าฝนทีไร คุณแม่ทั้งหลายมักเป็นห่วงลูกน้อย เมื่อลูกเป็นหวัด

มีการศึกษาระบุว่า เด็กสามารถป่วยเป็นไข้หวัดได้บ่อย ถึงปีละ 10 - 12 ครั้ง
หวัด สามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่คือ

• ไข้หวัดธรรมดา เกิดจากการติดเชื้อไวรัส คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการ ถ้าลูกมีไข้ คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ ส่วนใหญ่เป็นอยู่ประมาณ 5 - 7 วัน ก็หายเอง กินยาลดไข้ก็พอ ไม่จำเป็นต้องให้ยาแก้อักเสบ ยาปฏิชีวนะ หรือยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ เพราะไม่ได้ช่วยให้เด็กหายเร็วขึ้น แต่อาจเกิดผลข้างเคียงของยากับเด็กได้ สำหรับเด็กที่มีน้ำมูกไหล แนะนำให้ใช้ผ้านุ่มพันปลายแหลมสอดเข้าไปในรูจมูก เพื่อซับน้ำมูก ส่วนเด็กโต ให้สั่งน้ำมูกออกมาเอง บางรายอาจพบอาการปวดเมื่อยตามร่างกายด้วย

แต่ถ้าให้ยาลดไข้ แล้วไข้ไม่ลดภายใน 7 - 10 วัน ยังมีไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หายใจหอบและเสียงดัง เบื่ออาหาร มีอาการซึม นอนซมทั้งวัน ปลุกไม่ตื่น อาเจียนตลอด หรือเนื้อตัวเขียว มือเท้าเย็น ถ้าเด็กมีอาการเหล่านี้ รีบพาไปหาหมอ เพื่อตรวจวินิจฉัย รับการรักษาโดยเร็ว เพราะอาจเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้

• ไข้หวัดเรื้อรัง อาการจะคล้ายหวัด เป็นเดือนละ 2 - 3 ครั้ง เด็กในกลุ่มนี้มักจะเป็นโรคภูมิแพ้ที่จมูก
ทำให้มีน้ำมูกไหลเรื้อรัง คัดจมูกเรื้อรัง และอาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น โรคไซนัสอักเสบ โรคหูชั้นกลางอักเสบ กลายเป็นโรคหูน้ำหนวก หรืออาจมีโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย โรคที่สำคัญ ได้แก่ โรคหอบหืด ซึ่งอาจทำให้เป็นโรคปอดบวมตามมาได้ ดังนั้น เด็กกลุ่มนี้จึงควรรักษาโรคภูมิแพ้ควบคู่ไปด้วย และต้องติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง

จะว่าไปเด็กแต่ละคนมีโอกาสเป็นหวัดได้บ่อยครั้งต่างกัน เด็กที่ไม่สบายเป็นหวัดบ่อย ๆ มักพบในเด็กที่คลอดออกมา มีน้ำหนักตัวน้อย หรือคลอดไม่ครบกำหนด เด็กที่ไม่ได้เลี้ยงด้วยนมแม่ เพราะนมแม่จะทำให้มีการสร้างภูมิต้านทานที่ดี เด็กที่มีโรคประจำตัว อยู่กันอย่างแออัด เช่น สถานรับเลี้ยงเด็ก หรือมีคนในครอบครัวเป็นหวัด ที่บ้านมีคนสูบบุหรี่ มีฝุ่นควันมากมายในการหุงต้ม หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของอากาศ โดยเฉพาะหน้าฝน ทั้งหมดนี้มีส่วนทำให้เด็กเป็นโรคหวัดได้

ต่างกับเด็กที่เลี้ยงง่าย กินอาหารได้ง่าย น้ำหนักตัวขึ้นดี ไม่มีภาวะขาดอาหาร ไม่มีโรคประจำตัว และอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี เด็กก็จะแข็งแรง ไม่เป็นหวัดบ่อย

เด็กจะมีสุขภาพดี ไม่เป็นหวัด คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ช่วยที่สำคัญ เริ่มจากกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ให้เด็กได้เล่น ได้สูดอากาศที่ดี ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ร่วมกับการฉีดวัคซีนครบถ้วนตามวัย ก็จะเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เด็กเป็นหวัด แต่ถ้าเป็น ก็จะรักษาได้ง่ายและหายเร็ว
-----------

พบกิจกรรมดี ๆ ที่ศิริราช
•ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ขอเชิญผู้สนใจอายุไม่เกิน 45 ปี เข้าอบรมความรู้ก่อนสมรสเรื่อง “ชีวิตคู่/น่ารู้ น่า (ลอง) เรียน” วันที่ 11 ส.ค. 58 เวลา 09.00 - 16.00 น. ที่ห้องเติม บุนนาค อาคารเรียนสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา รพ.ศิริราช ปิดรับสมัคร 7 ส.ค. รับจำนวนจำกัดสมัครได้ที่ คุณสริญญา และคุณกรรณิการ์ โทร. 0 2419 4736-7, 0 2411 3011 ไม่เสียค่าใช้จ่าย

•ยังมีผู้ป่วยยากไร้ รพ.ศิริราช จำนวนมาก ที่รอความเมตตาจากท่าน ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ
“ให้” ในวันมหิดล บริจาคเงินพร้อมรับธงวันมหิดลที่ระลึก ได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุด
หรือนักศึกษาที่ขอรับบริจาคจากท่าน และตามธนาคารทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถาม โทร. 0-2419 7658-60

ติดตาม Facebook Fanpage ของ “Quality of Life” ได้ที่